จากที่เคยรุ่งเรืองเฟื่องฟู และมีชื่อเสียงโด่งดังจากคดีคู่รักหนุ่มสาวชาวอังกฤษถูกฆ่าตายที่เกาะเต่า เมื่อปี พ.ศ.2557 เรียกได้ว่าล้วงแคะแกะเกา เอามุมไหนมาเล่น มาจับผิด ชาวโซเชียลก็เชื่อไปซะทุกสิ่งอย่าง นำไปสู่การไล่ล่าผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นลูกผู้มีอิทธิพลในเกาะเต่า พร้อมปลุกกระแส ผู้ต้องหาต่างด้าว 2 รายที่ตำรวจจับกุม เป็นแพะรับบาปไปโดยปริยาย ..เท็จจริงอย่างไรก็ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย กระทั่งวันนี้ ยาวมาจนปี 2561 สาววัย 19 ปี ชาวอังกฤษ ก็อ้างว่าตนเองถูกข่มขืนใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุเมื่อหลายปีก่อนเช่นกัน
ต่อมาเพจ CSI LA ที่อ้างว่า ได้ข้อมูลต่างๆ นานามาจากแฟนคลับ ก็ลากจูงหลักฐานมาวิเคราะห์หน้าเพจเหมือนเดิม แต่รอบนี้เหมือนจะจุดกระแสไม่ติด เพราะตำรวจและหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ปกครองท้องถิ่น ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบพื้นที่ พากันงัดหลักฐาน และพยานบุคคลเสนอออกสู่สายตาประชาชน จนเหมือนๆ จะแจ่มกระจ่างแจ้ง โต้ได้ทุกข้อสงสัย ประกอบกับทางสถานทูตอังกฤษเองก็ยืนยันชัดว่า ทางผู้เสียหายไม่เคยติดต่อมายังสถานทูตตามกล่าวอ้าง เพจCSI LA

...
เรื่องที่เกริ่นมาทั้งหมด คงไม่น่าแปลกเท่า ณ วันนี้ ชาวโซเชียลที่ติดตามเพจ CSI LA ร่วมล้านคน เริ่มจะไม่ถูกชักจูงมองอะไรๆ ไปในทิศทางเดียวกับการเสนอชี้นำเพจอีกต่อไปแล้ว เพราะคดีล่าสุด แหม่ม 19 ชาวอังกฤษ ที่อ้างว่าถูกข่มขืนนั้น ชาวโซเชียลต่างพากันไปตั้งคำถาม ตั้งแง่ตอกกลับ และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ ที่เหมือนจะมีตรรกะดีกว่าการชี้นำจากเจ้าของเพจเองเสียอีก
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมงานลงพื้นที่เก็บหลักฐานข้อเท็จจริง ได้ออกหมายจับเจ้าของเพจ "สมุยไทม์" ใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีประโคมข่าวเท็จไปแล้ว ส่วนเจ้าของเพจ CSI LA ทราบว่า หมายจับกำลังจะออกภายในอาทิตย์นี้ในข้อหาเดียวกัน และถึงแม้เจ้าของเพจจะอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ทางตำรวจทราบข้อมูลชัด "นายเดวิด หรือ ประมุข อนันตศิลป์" ซึ่งเป็นคนไทย และครอบครัวพี่น้องยังอยู่ในเมืองไทย มีเพียงตัวเขาเองที่เคยเดินทางไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา และก่อตั้งเพจ CSI LA.