ภายหลัง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ควบคุมตัวนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้ไม้เบสบอลฆ่า น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี ไฮโซนักธุรกิจสาว จนเสียชีวิต พร้อมน้องชาย มาสอบปากคำ หลังจากถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัว ก่อนทางการไทยประสานเข้าไปรับมาดำเนินคดี

ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายอัศยา ผู้ต้องหา พร้อมสอบถามสาเหตุที่แท้จริงว่า อะไรดลใจให้เขาต้องลงมือฆ่าผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีทางสู้ ซึ่งทางผู้ต้องหาให้ข้อมูลเรากลับมาว่า "ผมเองกับผู้ตายคบกันมาปีกว่า โดยได้เลิกกับภรรยาขาดแล้ว แต่ติดภาระที่ต้องดูแลลูกด้วยกัน ซึ่งแรกๆ ความสัมพันธ์กับผู้ตายก็ดีราบรื่นดีมาก กระทั่งมาพักหลังๆ เค้าได้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก มักจะคอยหาเรื่องจับผิดและชวนทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ ซ้ำยังด่าทอยาวไปถึงพ่อแม่ กดขี่ปมด้อยของผมที่เหมือนจะมีฐานะจนกว่าเค้า นอกจากนี้ยังหวงห้ามกีดกัน ไม่อยากให้ไปเจอลูกสาวแท้ๆ ที่เปรียบเสมือนดวงใจของผมเอง"  

"โก้" ยังบอกเราด้วยว่า "ผู้ตายไม่ได้มีพื้นฐานครอบครัวที่รวยมาตั้งแต่กำเนิด หรือรวยเป็นพันๆ ล้านตามที่ข่าวเสนอออกไป ผู้ตายมีเงินเพราะก่อร่างสร้างตัวทำธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมายืนยันว่าไม่ได้ถลุงเงินของผู้ตายไปเล่นการพนันตามที่เป็นข่าว นอกจากนี้ผู้ตายยังมีหนี้ ใช้เงินหมุนทำธุรกิจและถูกแจ้งความคดีเช็คเด้งหลายคดี มีหนี้ต้องใช้ด้วย ก่อนหน้าที่จะมีเรื่อง ผมก็ยืนยันว่าไม่ได้ไปเอาเงินของเค้ามาใช้ตามที่ข่าวออกไป ขอยอมรับเพียงหลังการตายแล้วได้ขโมยบัตรเครดิตไปรูดซื้อของในเขมร แล้วนำของไปขายต่อ เพื่อเอาเงินมาใช้หลบหนีเท่านั้น" 

ตำรวจไทยชุดจับกุมที่เขมร
ตำรวจไทยชุดจับกุมที่เขมร

...

สอบปากคำเบื้องต้นต่อหน้าสื่อ
สอบปากคำเบื้องต้นต่อหน้าสื่อ

"ผู้ตายมีพฤติกรรมชอบด่าทอ ชวนทะเลาะหาเรื่อง ล่าสุดก่อนเกิดเรื่องก็ยังชวนทะเลาะวันเว้นวัน ปมเกิดจากผมเองอยากจะเอารถคันเก่าไปให้ภรรยาเก่า พาลูกไปหาญาติที่ต่างจังหวัด แต่ผู้ตายไม่ยอม ชวนทะเลาะ และคิดไปเองว่าผมยังมีความสัมพันธ์กับภรรยาเก่า ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น ผู้ตายระแวงไปเอง ผมแค่ดูแลลูกเพราะหน้าที่รับผิดชอบ ที่สำคัญลูกทั้งคนก็เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจ เมื่อผู้ตายพาดพิงด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย จึงเกิดอารมณ์โมโห คุมสติไม่อยู่ ใช้ไม้ฟาดไป 3 ครั้ง ตายคาที่" 

ในส่วนเรื่องติดการพนัน นำเงินผู้หญิงไปลงบ่อนที่เขมร ไอ้โก้ บอกว่า "ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเลย ผมไม่ได้ติดการพนันขนาดนั้น และไม่ได้นำเงินไปเข้าบ่อนที่เขมรตามข่าวออก อย่างที่บอกไปว่า อยู่กับผู้ตาย มาใช้เงินเค้าจริงๆ ก็ตอนเกิดเรื่อง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการหลบหนีเท่านั้น ระหว่างหนีในเขมร ก็เอาบัตรผู้ตายไปรูดซื้อของ และรถจักรยานยนต์ขับขี่กันในเขมร ไม่ได้เข้าไปข้องแวะในบ่อนตามที่ข่าวออกไป" 

"ส่วนน้องชายที่พาหนี เค้าไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วยเลย เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมไปฆ่าคนตายเพราะผมไม่เคยบอกอะไรเค้า แค่ขอความช่วยเหลือให้พาออกไปเขมร ซึ่งก็ออกทางช่องทางปกติ โดยมีน้องชายเป็นไกด์พาไปยังสถานที่ต่างๆ ระหว่างอยู่ในเขมร ก็ติดตามข่าวของตัวเองและตัดสินใจบอกให้น้องชายรู้ว่า ไปก่อคดีอะไรมา รู้สึกสงสารน้องมากหากต้องมาโดนรับโทษไปด้วย... ในทีแรกหลังทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว จึงคิดว่าอยากจะกระโดดตึกตายตามไป แต่เมื่อนึกถึงหน้าลูก จิตใจจึงเตลิด ไม่อยากตาย ตัดสินใจหลบหนีไปให้ไกลที่สุด" 

ขณะที่ตำรวจชุดจับกุมบอกกับเราว่า หลักฐานการใช้เงินของผู้ตายมีเพียงหลังเกิดเหตุจริง ตามที่นายโก้กล่าวอ้าง ส่วนเรื่องติดการพนันเข้าบ่อนเขมร ภายหลังไปเฝ้าจุดหรือสอบปากคำหาข้อมูล ก็ยังไม่พบว่า นายโก้ ได้ไปข้องแวะกับบ่อนใดๆ ในเขมร อาจเป็นไปได้ว่ารู้ตัวกำลังถูกเจ้าหน้าที่ตามล่า และตั้งค่าหัวนำจับติดประกาศในบ่อนทุกแห่ง ซึ่งคำให้การของนายโก้ ต้องไปสู้กันในกระบวนการยุติธรรมต่อไป. 

รถ จยย. 2 คันที่ซื้อเพื่อใช้หลบหนีในเขมร
รถ จยย. 2 คันที่ซื้อเพื่อใช้หลบหนีในเขมร

...

ใช้เงินไฮโซเชอรี่ซื้อในเขมร
ใช้เงินไฮโซเชอรี่ซื้อในเขมร
ตำรวจไทยยืนยันเป็นคนเดียวกัน
ตำรวจไทยยืนยันเป็นคนเดียวกัน