คดีที่สังคมติดตามจากกรณีเสี่ยอ้วน หรือนายปัญญา ยิ่งดัง บงการและฆ่าน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 21 ปี เสียชีวิต เมื่อเกิดจุดเปลี่ยนสังคมกลับมารู้สึกเห็นใจเสี่ยอ้วน จากเดิมเชียร์ให้ประหารชีวิต เพราะความโหดร้าย
เพราะภายหลังเสี่ยอ้วนโดนจับกุม ออกมาเน้นย้ำก่อนเข้าเรือนจำ ถึงการโอนเงินให้กับน้องสปาย และครอบครัวของน้องสปาย คาดหวังว่าน้องสปายจะแต่งงานด้วย รวมจำนวนกว่า 7 ล้าน มีหลักฐานชัดเจนอยู่ในเฟซบุ๊ก จึงเกิดความแค้นที่ผิดหวังเรื่องความรัก และโดยเฉพาะการโดนหลอกเงิน
แม้ทางฝ่ายแม่น้องสปาย ได้ออกมาโต้ไม่เป็นความจริง ยังคงยืนยันได้เงินมาเพียง 1 ล้านเท่านั้น แต่การออกมาพูดแต่ละครั้ง ไม่เหมือนกัน จากการจับผิดของชาวโซเชียล ว่าแม่น้องสปายโกหกคำโต
กลายเป็นว่า!! เกิดอาการพลิกเมื่อแม่น้องสปาย โดนถล่มเละโดนด่าทำนองว่าขายลูกกิน หลอกเอาเงินเสี่ยอ้วนใช้ซื้อรถซื้อบ้าน ตามมาด้วยความสงสารน้องฟอสที่มาตายฟรี เพราะน้องสปายและครอบครัวเป็นต้นเหตุ
ยังไม่จบเท่านั้น เมื่อมีกระแสออกมาว่า ทางเสี่ยอ้วน เตรียมให้ทนายความดำเนินการฟ้องเรียกเงินคืนจากครอบครัวน้องสปาย หลังออกมาแฉความจริง อีกทั้งหลักฐานการโอนเงินได้อยู่ในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย จนมีการตั้งคำถามว่า ประเด็นการโอนเงิน จะนำไปสู่การบรรเทาโทษเสี่ยอ้วนหรือไม่? เนื่องจากข้อหาร่วมฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ระวางโทษสถานเดียวคือประหาร
ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา กล่าวในฐานะวิทยากรสอนกฎหมาย กับไทยรัฐออนไลน์ ว่า ประเด็นการโอนเงินจำนวนมากขนาดนี้ คงไม่มีใครให้โดยเสน่หา เพราะจากคำให้สัมภาษณ์ของเสี่ยอ้วนแล้วไม่ใช่ เพราะเหมือนการหลอกลวงว่าจะยกน้องสปายให้ ถือเป็นการละเมิด สามารถฟ้องเอาผิดพ่อแม่น้องสปายได้ เชื่อว่าทางเสี่ยอ้วน ต้องฟ้องอย่างแน่นอน และมูลเหตุจูงใจจากพ่อแม่น้องสปายหลอกเงิน จะบรรเทาโทษได้จากเหตุเป็นคนโฉดเขลา เบาปัญญา คือคนโง่ ทนทุกข์ทรมาน ตามมาตรา 78 ประมวลกฎหมายอาญา สามารถต่อสู้ลดโทษจากประหารชีวิตได้ เพราะทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ
...
“จุดนี้เข้าทางเสี่ยอ้วน ไม่โดนโทษประหาร เพราะมีการย้ำชัดเรื่องถูกหลอกโอนเงิน 7 ล้าน ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ มีการหลอกลวงว่าจะยกน้องสปายให้ ทั้งที่ๆ รู้อยู่แล้วว่าน้องสปายไม่ยอม และพ่อแม่ไม่ยกลูกสาวให้อยู่แล้ว เป็นลักษณะร่วมกันฉ้อโกง สามารถฟ้องดำเนินคดีอาญาพ่อแม่น้องสปายได้ ภายใน 3 เดือนนับแต่รู้ตัวผู้กระทำความผิด จากการปกปิดความจริง พูดโกหก หรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ได้ไปซึ่งเงิน 7 ล้าน”
นอกจากนี้ยังสามารถฟ้องทางแพ่งได้อีกเด้ง เพราะมีลักษณะหลอกลวง จงใจฉ้อฉล ฉ้อโกง เอาเงินเอาทองไป เป็นการฟ้องละเมิดเอาทรัพย์คืนได้ ซึ่งทางเสี่ยอ้วนสามารถตั้งทนายความฟ้องได้ และจากประเด็นการโอนเงินได้พลิกวิกฤติกลายเป็นโอกาสให้กับเสี่ยอ้วน ประเมินว่าเมื่อลดโทษไปมา ทางเสี่ยอ้วนจะติดคุกประมาณ 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมาเสี่ยอ้วนพูดมาตลอดว่าเสียใจกับสิ่งที่ทำ ฆ่าคนต่อหน้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เหมือนเป็นนักเลงโดนหยามไม่ได้ เรื่องถูกหลอก
พร้อมทิ้งท้ายว่า การที่กระแสสังคมกลับมาเห็นใจเสี่ยอ้วนโดนหลอกเอาเงิน ถือเป็นเรื่องอารมณ์ ขอให้เวรกรรมจัดการ ไม่ต้องรอชาติหน้า ซึ่งเงินตั้ง 7 ล้านบาท ใครให้ไปทำไม ตัวเองรู้อยู่แก่ใจ การบอกไม่รู้เรื่องเงิน คงไม่มีใครเชื่อ เพราะผัวเมียนอนบนเตียงเดียวกัน บอกไม่รู้ไม่ได้ รวมถึงการที่น้องสปายได้เงินมา บอกว่าไม่รู้ ไม่มีใครเชื่อ ให้ไปสาบานที่เขาชีจรรย์ กลางฝนตก เชื่อว่าโดนฟ้าผ่าตายแน่.