เรื่องรักๆ ร้าวๆ ของข่าวคนบันเทิงมันทำให้องศากระแสความแรงบนโลกโซเชียลพุ่งปรี๊ด "ร้อนทะลุอากาศ" ทำเอาชาวบ้านชาวช่องแชร์กันสนั่นประหนึ่งว่า "ความเจ็บปวด" ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งปวงประสบพบเจอกับครอบครัวตัวเองซะอย่างนั้น 

ก่อนที่คู่รักเป้ย + ป๊อป จะก้าวข้ามผ่านเรื่องราวร้ายๆ ไปได้ และกลับมารักใคร่กันดีเหมือนเดิม เร็วๆ นี้ ทางไทยรัฐออนไลน์ จะพาย้อนกลับไปเปิดความในใจของ ป๊อป "นิธิ บุญยรัตกลิน" ที่มีต่อ เป้ย "ปานวาด เหมมณี" ภรรยาสาว หลังลั่นระฆังวิวาห์กันหมาดๆ เมื่อปี 2555 ในครั้งนั้น ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เหมือนจะเป็นสื่อช่องแรกที่ได้ไปสัมภาษณ์เปิดใจ ป๊อป กับความรักที่สุดแสนจะลงตัว

 "ครั้งแรกผมเจอคุณปานวาดที่บ้านตัวเอง เพราะคุณปานวาดกับคุณแม่ผมเคยไปเจอกันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และก็มีการพูดคุยกัน ต่อมาคุณแม่ก็เลยชักชวนมาทานข้าวที่บ้าน ผมก็เลยมาเจอกันตอนที่มาทานข้าวที่บ้าน เจอคุณเป้ยครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจนะครับ ผมสนใจเขาครั้งแรก ตรงที่ความแตกต่างกับบทบาทที่อยู่ในจอโทรทัศน์ ก่อนหน้านี้ผมก็มองเขาในแบบนักแสดงคนหนึ่ง พอมาเจอกันเขาก็มีลักษณะและนิสัยที่ค่อนข้างแตกต่างจากในโทรทัศน์ครับ"

...

ป๊อป นิธิ บอกด้วยว่า ตัวเค้าเองเป็นคนชอบใช้แววตาและอารมณ์สัมผัส มองดูเป้ย และเห็นว่าเป้ยเป็นคนที่มีจิตใจดี ด้วยแววตา การพูดจา การแสดงออก

"หลังจากที่เจอกันครั้งแรก เวลาไปทานอาหารกับเพื่อนๆ พวกเขาก็จะช่วยสนับสนุนนิดหน่อย ก็มีโอกาสนัดมาทานอาหารกัน ต่อมาก็ได้แลกเบอร์โทรศัพท์ เริ่มโทรคุยกันครับ (หัวเราะเขินๆ) ส่วนเรื่องที่หลายคนมองว่า คบเร็ว แต่งงานเร็วนั้น จริงๆ ก็คบกันเกือบปีแล้วครับ ประมาณ 8-9 เดือน ซึ่งเวลาสั้นยาว ก็ไม่ใช่คำตอบของทุกเรื่อง ส่วนตัวผมเองเป็นคนค่อนข้างให้ความสำคัญกับความรู้สึกตัวเอง และการใช้ชีวิตร่วมกันกับคนอื่นค่อนข้างเยอะ ถ้าอยู่กับคนนั้นแล้วรู้สึกว่าใช่ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ก็ไม่จำเป็นต้องคบกันนานครับ อีกส่วนหนึ่งก็ที่ตัวคุณเป้ยเอง เพราะระหว่างที่เราคบหากัน เราเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างมาก ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงนิสัยที่แท้จริงของกันและกันอย่างรวดเร็ว"

ป๊อป นิธิ ยังบอกด้วยว่า กลุ่มเพื่อนๆ แต่งงานมีชีวิตคู่กันเยอะแล้ว มีลูกโตกันแล้ว พวกเขาก็จะแซวว่า ถ้ายังรักสนุกอยู่แบบนี้ ไม่คิดจริงจังกับชีวิต การเริ่มต้นชีวิตครอบครัวมันคงจะไม่เกิดขึ้นสักที ก็เลยกลับมาคิดว่าตัวเองก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ถ้ามันมีช่วงเวลาที่เหมาะสมก็คว้าโอกาสนั้นมา

"หากให้เล่าย้อนกลับไปช่วงเวลาที่ขอคุณเป้ยแต่งงาน ค่อนข้างธรรมดาครับ ไปทานอาหารคุยกันตามปกติ ผมก็พูดขอขึ้นมา ไม่ได้โรแมนติกอะไร แต่ก็รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับทั้งคู่ครับ อาจเป็นเพราะเป็นทหารด้วย อยากจะคุกเข่าขอแต่งงานแต่เขิน ก็เลยขอแต่งงานไปแบบตรงๆ ชัดเจนเลย วินาทีนั้นเป้ยก็นิ่งไปสักพักหนึ่ง ใช้เวลาพอสมควร คือผมมองแววตาเขาก็รู้คำตอบแล้ว แต่คุณเป้ยอาจจะช็อกไปกับคำขอแต่งงานของผม แต่เขาก็ตอบกลับมาตรงๆ ครับ"

...