นักอาชญาวิทยา ไขข้อข้องใจ ทำไมกางเกงในจาก 2 คดีดังอย่างคดีน้องหญิง-คดีน้องน้ำหวาน ถึงสำคัญ หากหาไม่พบ จะควานหาตัวคนร้ายไม่ได้จริงหรือ...

จากกรณีการเสียชีวิตของ นางสาวนรีกานต์ ยาวิราช หรือน้องหญิง ซึ่งผู้ชายที่ขับรถไปส่งน้องหญิง อ้างว่าน้องหญิงได้กระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ และเสียชีวิตอย่างปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม แต่กางเกงชั้นในหายไป

ส่วนอีกคดีเป็นกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ นางสาววรรณวิสา สำราญ หรือ น้องน้ำหวาน หลังชายหนุ่มที่เพื่อนทอมเพิ่งพามารู้จักกันที่สถานบันเทิงในคืนวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้อาสาขับรถไปส่งบ้าน โดยไม่มีเพื่อนคนอื่นไปด้วย หลังจากนั้นประมาณ 1 ชม.ผ่านไป ญาติผู้เสียชีวิตทราบว่าเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เนื่องจากรถเก๋งที่นั่งมาด้วยเสียหลักชนต้นไม้ แต่มาพบพิรุธว่า น้องใส่กางเกงกลับด้าน และกางเกงชั้นในผู้ตายหายไป

นางสาววรรณวิสา สำราญ หรือ น้องน้ำหวาน ชาว จ.หนองบัวลำภู
นางสาววรรณวิสา สำราญ หรือ น้องน้ำหวาน ชาว จ.หนองบัวลำภู

...

ดร.ฑิตฐิตา ธิติธรรมพฤกษ์ นักอาชญาวิทยา เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า ในคดีลักษณะดังกล่าว หากกางเกงในหายไปนั้น สามารถวิเคราะห์ไปได้ 2 แนวทาง คือ 1. เหตุการณ์ข้างต้น อาจมีการกระทำความผิดในลักษณะข่มขืน หรือเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ 2. ผู้ที่นำกางเกงในไป หรือผู้ที่ทำให้กางเกงในหายไป ต้องการอำพรางคดีหรือไม่ และ3. การทำให้กางเกงในหายไป เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมและเจ้าหน้าที่รัฐหันมาพุ่งเป้าในแง่ของการล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งๆ ที่อันที่จริงแล้ว อาจเป็นคดีฆาตกรรม

กางเกงในหายไป! หลักฐานสำคัญคดี 'น้องหญิง'
กางเกงในหายไป! หลักฐานสำคัญคดี 'น้องหญิง'

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากกางเกงในหายไป ทั้งสองคดีดัง จะไม่สามารถควานหาฆาตกรได้จริงหรือ? ดร.ฑิตฐิตา ตอบว่า “ในเรื่องนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการหาพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต้องพิจารณาด้วยว่า กางเกงชั้นในที่หายไปนั้น เป็นหลักฐานสำคัญหรือมีความเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่”

อัจฉริยะ แฉพิรุธน้องหญิงดับมีเงื่อนงำ เผยกางเกงในหายไป เพราะพยาบาลให้แม่บ้านไปทิ้งเผาทำลาย เปิดภาพถ่ายในรถเทรลเลอร์ พบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของกระจัดกระจาย
อัจฉริยะ แฉพิรุธน้องหญิงดับมีเงื่อนงำ เผยกางเกงในหายไป เพราะพยาบาลให้แม่บ้านไปทิ้งเผาทำลาย เปิดภาพถ่ายในรถเทรลเลอร์ พบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของกระจัดกระจาย

“แต่ท้ายที่สุดแล้ว ประเด็นกางเกงชั้นในหายไปนั้น ตำรวจก็ไม่สามารถมองข้ามไปได้ ซึ่งตามหลักการของการสืบสวนสอบสวนกลาง ทุกประเด็นต้องนำมาคิดพิจารณาทั้งหมด แต่ถ้าประเด็นใดที่พยานหลักฐาน หรือพยานแวดล้อมมีเพียงน้อยนิด เราก็จะตัดทีละประเด็นออกไป แต่สิ่งสำคัญคือ เราไม่สามารถละทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่งไปได้” ดร.ฑิตฐิตา กล่าว

...

พล.ต.ต.วิชัย สังประไพ
พล.ต.ต.วิชัย สังประไพ

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า จากประสบการณ์ ที่ทำเคยคดีมาอย่างยาวนาน ยืนยันกรณีดังกล่าว ตร.เจ้าของคดี ต้องการความสมบูรณ์ของคดี ต้องมีหลักฐานครบถ้วน ซึ่งกางเกงในก็เป็น 1 ในหลักฐานมีอาจมีคราบอสุจิของคนร้าย แต่หากถามว่า ถ้าไม่มีกางเกงใน ยังสามารถทำคดีได้หรือไม่  ขอตอบว่าทำได้ เพราะมีหลักฐานอื่น อาทิ ตรวจดีเอ็นเอในช่องคลอด ก็ยังสามารถใช้ได้ เป็นต้น 

ส่วนกรณีที่ มีการระบุว่า ถึงจะมีการแจ้งความเอาผิดนางพยาบาลและแม่บ้านโรงพยาบาล เพราะไปเอากางเกงในผู้เสียชีวิตไปทิ้ง นั้น ส่วนตัวเห็นว่า เป็นเพียงกระแส เพราะความเป็นจริงแล้ว ทนายความ ควรมีหน้าที่ให้คำแนะนำเท่านั้น ไม่ควรทำเกินขอบเขต 

ขณะที่ตำรวจกองปราบ ให้ข้อมูลว่า กรณีพยาบาลนำกางเกงในน้องหญิงไปทิ้ง ไม่ได้ส่อเจตนาสมรู้ร่วมคิด ผอ.โรงพยาบาลก็ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดอะไรตามที่ข่าวมันออกไป ปฎิบัติหน้าที่ตามปกติ เพราะทุกคนเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ และนายออฟ ก็ได้บอกกับทางโรงพยาบาลแบบนั้น ทางคดีควรใช้หลักรัฐศาสตร์มากกว่านิติศาสตร์ ทางผู้รักษาเป็นบุคคลที่สาม ไม่มีเจตนาทำให้รูปคดีเสียหาย 

...