พ่อสาวนักธุรกิจไฮโซ ระบุปมสังหาร เพราะมาจากการทวงหนี้ เตือนให้เลิกยุ่ง ลูกไม่ฟัง น.1 เร่งล่า ต้องตามจับให้ได้ภายใน 7 วัน 

คืบหน้าจากกรณีพบศพ น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มหาเกียรติ พร็อพเพอร์ตี้จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่งรายใหญ่ รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันอีก 3 แห่ง ที่เสียชีวิตในโรงแรมแห่งหนึ่งสภาพศพนั่งกับพื้นหน้าฟุบกับขอบเตียง ในพื้นที่ สน.โชคชัย

หลังจากที่พบศพ พบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี คนสนิทผู้เสียชีวิตได้หลบหนีไปที่จังหวัดจันทบุรีพร้อมด้วยรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์รุ่นอี 220 เลขทะเบียน 6 กฒ 1937 กรุงเทพมหานคร ของผู้เสียชีวิต โดยพบว่านำไปจอดไว้ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน ใกล้บ่อนกาสิโน จากนั้นจึงถอดป้ายทะเบียนรถออก แล้วหลบหนีเข้าไปภายในบ่อนกาสิโน (ประเทศกัมพูชา)

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝั่งไทยได้ประสานงานกับทางการกัมพูชา ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง พบนายอัศยา ผู้ต้องหากำลังเดินกับชายอีกคนหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บรอยนิ้วมือ และหลักฐานที่รถแล้ว

ต่อมา นายอำนวย วิชัยโชติ บิดาพร้อมด้วย นายบัณฑิต ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ น้องชาย น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก น.4 พ.ต.อ สุพล ค้ำชู ผกก. สน.โชคชัย หลังจากที่ทราบว่าพบรถเบนซ์รุ่นอี 220 เลขทะเบียน 6 กฒ 1937 กรุงเทพมหานคร ของลูกสาวตนเองแล้ว และได้นำรถยนต์มาที่ สน.โชคชัย

พล.ต.ต. ธีระพงษ์ เปิดเผยว่า วันนี้เราได้นำรถยนต์ของกลาง ที่ตรวจยึดได้มาให้ทาง นายอำนวย พ่อของผู้เสียชีวิต ได้เก็บรักษาไว้ในฐานะเป็นของกลาง และถ้ามีความจำเป็นก็จะขอตรวจสอบอีกครั้ง และได้คืนทรัพย์สินที่พบเจอภายในรถส่งคืนให้ มีกุญแจรถ กระเป๋าเครื่องสำอาง เอกสารจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีของมีค่าอย่างอื่น

...


นายบัณฑิต (น้องชายผู้ตาย) เปิดเผยว่า วันนี้มารับทรัพย์สินเป็น กระเป๋า กุญแจรถเบนซ์ เอกสารบางส่วน ส่วนทรัพย์สินที่หายไปมีสร้อยข้อมือ กำไลทอง แหวนทอง บัตรเอทีเอ็ม และเงินสดจำนวน 2 แสนบาท ที่พี่สาวกดล่าสุด ก่อนเสียชีวิตยังไม่พบ ส่วนจำนวนเงิน 2.7 ล้าน ตนเองก็ไม่ทราบว่ามาจากไหน เพราะยังไม่ได้ดูบัญชีอย่างละเอียดแต่ขณะนี้ได้อายัดบัญชีธนาคารของพี่สาวไว้เรียบร้อยแล้ว


ทางด้าน พล.ต.ต. ธีระพงษ์ กล่าวอีกครั้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี จากการสืบสวน เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายสามารถเดินทางเข้าออกฝั่งชายแดนได้ โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านในการติดตามตัวแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี


"ส่วนจะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านช่วยเหลือหลบหนีหรือไม่นั้น จากข้อมูลคร่าวๆ ทราบว่าผู้ต้องหาไม่ค่อยได้เดินทางไปบริเวณดังกล่าว อาจจะไม่รู้จักหรือสนิทสนมกับผู้มีอิทธิพลเท่าที่ควร ส่วนจะมีผู้ให้การสนับสนุนพาผู้ต้องหาหลบหนี ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานถ้ามีจะออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนภาพกล้องวงจรปิดที่เปิดเผยจากโรงแรมแห่งหนึ่งในฝั่งกัมพูชา ยืนยันมีคนร้ายอยู่ในภาพดังกล่าวแต่บุคคลที่เดินตามหลัง ยังไม่ขอยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุด้วยหรือไม่"

อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. สั่งเร่งรัดติดตามคดี และให้จับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ภายใน 7 วัน ส่วนผลทางการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม้เบสบอล และวัตถุพยานที่เกิดเหตุ ที่ทางพิสูจน์หลักฐานได้เก็บไว้นั้น จะทราบผลลายนิ้วมือ 5-7 วัน ส่วนผลดีเอ็นเอ จะเร่งให้เร็วที่สุดประมาณ 10-14 วันจึงจะทราบผล 

นายอำนวย วิชัยโชติ พ่อผู้ตาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ลูกชายดำเนินการต่อที่ สน.โชคชัย ส่วนตนจะเดินทางไปอายัดบัญชีธนาคารของผู้ตาย จำนวน 14 บัญชี และบัตรต่างๆ ให้เรียบร้อยภายในวันนี้ และพูดถึงนายอัศยา ผู้ต้องหา อีกครั้งว่า ครั้งแรกที่เจอกัน ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจ เพราะคนร้ายลักษณะคล้ายกับคนที่น่าจะมาหลอกคบ และเอาเงินลูกสาว เคยเตือนแล้วแต่ก็ไม่กล้าพูดเยอะไปมากกว่านี้ ซึ่งลูกก็ไม่ได้ฟังอะไร

"ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า ได้ไปสอบแม่บ้านโรงแรมที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงคนทวงเงิน จึงเชื่อว่าปมสังหาร น่าจะมาจากเรื่องเงิน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าตลอดเวลา 1 ปี ที่ผ่านมาคนร้ายยืมเงินลูกสาวไปกี่บาทแล้ว"

...

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นพบว่าบัญชีของ น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ผู้เสียชีวิต มีบัญชีธนาคารจำนวน 14 บัญชี มีเงินอยู่นับ 10 ล้านบาท ที่ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานงานกับทางธนาคารเพื่อดูเส้นทางการเงิน ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุว่ามีการเคลื่อนไหวการเข้า-ออก ทางการเงินไปบัญชี นายอัศยา หรือโก้ ชัยภา ผู้ต้องหา จำนวนเท่าไรกี่ครั้ง ที่เชื่อว่าเป็นมูลเหตุที่ผู้ตายทวงเงิน ก่อนจะถูกฆ่าเสียชีวิต