เกิดอุบัติเหตุ รถสิบล้อไหลลงจากสะพานชนซุ้มทางเข้าหมู่บ้านชื่อดังย่านประเวศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เผยคนขับเห็นรถไหลต่อหน้า แต่วิ่งตามไม่ทัน...

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 24 ก.ค.61 ร.ต.อ.ภัทรภพ ชัยชนะ รอง สว.(สอบสวน) สน.อุดมสุข ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุก 10 ล้อ ชนซุ้มทางเข้าหมู่บ้านชื่อดังย่านประเวศ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ทำให้มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 1 ราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนจะไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านดังกล่าว พบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน 71-3163 สระบุรี บรรทุกอิฐมวลเบา ชนติดกับซุ้มด้านขวาของทางเข้าหมู่บ้าน ที่บริเวณหัวรถบรรทุกพังยุบเสียหาย มีแผ่นปูนหล่นอยู่ด้านบน ซึ่งด้านในห้องโดยสารช่วงแค็บหลังมีร่าง น.ส.พรรณนิภา ถนนใหญ่ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9809 ม.3 ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ถูกอัดก๊อบปี้เสียชีวิตอยู่ภายใน โดยมี นายปิติพัฒน์ อัขระ อายุ 22 ปี ชาว ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ สามี และเป็นผู้ขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเสียใจ

...

จากการสอบสวน นายเอ (นามสมมติ) ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่นั้น นายปิติพัฒน์ ได้ขับรถบรรทุกคันดังกล่าวมาจอดบนสะพานก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้านประมาณ 100 เมตร ก่อนจะลงมาถามทางเพื่อนำอิฐมวลเบาไปส่งที่หมู่บ้านชื่อดังย่านประเวศ ซึ่งอยู่ในช่วงกำลังก่อสร้าง และอยู่ติดกัน แต่ทางเข้าคนละทางทำให้ผู้ที่มาส่งของมักสับสน ทั้งนี้จังหวะที่นายปิติพัฒน์ ลงมาจากรถเป็นจังหวะเดียวกับที่ รปภ.หน้าหมู่บ้านกำลังวิ่งไปบอกทาง แต่รถบรรทุกที่จอดติดเครื่องยนต์อยู่เกิดไหลลงจากสะพาน นายปิติพัฒน์ พยายามที่จะกระโดดขึ้นไปบนรถบรรทุกแต่ไม่สำเร็จ ทำให้รถบรรทุกคันดังกล่าวไหลลงจากสะพานมุ่งตรงไปยังทางเข้าหมู่บ้าน ส่วนน.ส.พรรณนิภา ซึ่งขณะนั้นนอนอยู่ในแค็บหลังคนขับได้พยายามออกมา และตะโกนให้คนช่วย แต่รถบรรทุกก็พุ่งเข้าชนเข้ากับซุ้มประตูทางเข้าฝั่งขวาอย่างแรง ทำให้แผ่นปูนด้านบนหล่นลงมาทับที่ด้านหน้ารถบรรทุกอย่างจังส่งผลให้ น.ส.พรรณนิภา ถูกอัดก๊อบปี้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการนำเครนมายกหน้ารถบรรทุกเพื่อดึงถ่างห้องผู้โดยสารเพื่อช่วยกันนำร่างของน.ส.พรรณนิภา ออกมา

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำร่างของน.ส.พรรณนิภา ได้ตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ส่วนนายปิติพัฒน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.อุดมสุข ได้นำตัวไปสอบสวนก่อนดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป.