ทนายความ ยกมาตรา 37 โต้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่มีอำนาจไล่บี้ ทอท.เปิดตัวดิวตี้ฟรี ชี้กฎหมายห้ามรับคำร้องคดีที่อยู่ในศาลไว้พิจารณา พร้อมเรียกร้อง ส.การค้าร้านค้าปลอดอากรไทย ยุติเคลื่อนไหวกดดันกระบวนการยุติธรรม
นายธเนศ โกละกะ ทนายความ กล่าวถึงกรณีที่ นางรวิฐา พงศ์นุชิต นายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย ออกมาเรียกร้องให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะ (Pick-up counter) เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่นที่ได้รับอนุมัติจากกรมศุลกากรในการทำธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมืองได้เข้าไปใช้ โดยอ้างถึงคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ตนอยากให้ทุกฝ่ายรอฟังคำตัดสินของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งได้มีคำสั่งรับฟ้องคดี เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ในคดีหมายเลขดำที่ อท. 352/2560 ระหว่าง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ ทอท.ในข้อกล่าวหาว่า ทอท.ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมืองรายอื่น เช่าพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง เพื่อใช้เป็นจุดส่งมอบสินค้า (Pick-up Counter) ตามที่ นางรวิฐา ได้ยื่นเรื่องให้กรรมาธิการฯ ชุดดังกล่าวพิจารณา ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในกระบวนการของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ต้องสืบพยานและข้อเท็จจริง เพื่อให้ความยุติธรรมกับทุกคนทุกฝ่าย
นอกจากนี้ นายธเนศ ยังได้อ้างถึงมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 ที่เพิ่งประกาศใช้ว่า กฎหมายกำหนดชัดเจน ห้ามมิให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาล หรือเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษา คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้ว เว้นแต่เป็นการศึกษาเพื่อประโยชน์ในการเสนอแนะ ให้มีการปรับปรุงกฎหมาย หรือกฎที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม และวรรคสุดท้ายของมาตรายังระบุชัดเจนว่า "ในกรณีที่ความปรากฏในภายหลังว่าเป็นเรื่องที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งยุติเรื่อง" ดังนั้นเมื่อคดีอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีของชั้นศาลแล้ว ทุกฝ่ายควรเคารพกระบวนการยุติธรรม และยุติการออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากไม่เหมาะสม และอาจเป็นความพยายามกดดันกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
...