เผาแล้ว “พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์” อดีตปลัด พม.ซดพิษฆ่าตัวตายพร้อมสาวคนสนิท ด้านที่ปรึกษากฎหมายเผยญาติทั้ง 2 ฝ่ายไม่ติดใจ พร้อมยันอดีตปลัด พม. และสาวคนสนิทคบหากันด้วยความรัก โดยขณะนี้ฝ่ายหญิงปลอดภัยแล้ว ถามหาฝ่ายชาย แต่ญาติยังไม่บอกอะไรกลัวสะเทือนใจ ขณะที่ รมว.พม.ระบุ การเสียชีวิตของอดีตปลัด พม.ต้องให้ฝ่ายกฎหมายตีความว่าต้องเสนอ อ.ก.พ.กระทรวง พิจารณาโทษหรือไม่ ยันการตรวจสอบเป็นไปตามระบบไม่ได้บีบคั้น “บิ๊กฉัตร” โยน ตร.สางอดีตปลัด พม.ฆ่าตัว ยันทุกปมทุจริตต้องสอบสวนต่อ
กรณีนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดื่มไวน์ผสมยาพิษฆ่าตัวตาย พร้อมกับ น.ส. วาสนา ตะเภาพงษ์ สาวคนสนิทที่อาการสาหัส แพทย์ รพ.ปทุมธานี ช่วยเหลือไว้ได้ทัน ภายในบ้านเลขที่ 106/105 หมู่บ้านชวนชื่นกอล์ฟฟลอร่าวิลล์ (ชวนชื่นบรู๊คไซด์) หมู่ 8 ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่ญาติจะรับศพมาตั้งสวดพระอภิธรรมที่ศาลา 4 วัดพรหมวงศาราม (วัดหลวงพ่อเณร) ซอยประชาสงเคราะห์ 27 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ เป็นเวลา 2 วัน กำหนดฌาปนกิจศพ ในวันที่ 2 ก.ค.
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่วัดพรหมวงศาราม ศาลา 4 พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย ท่ามกลางครอบครัวและญาติพี่น้อง รวมถึงผู้บริหาร ข้าราชการและบุคลากรกระทรวง ดังกล่าว ที่เคยร่วมงานกับนายพุฒิพัฒน์กว่า 400 คน เข้าร่วมงานวางดอกไม้จันทน์เพื่อแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ ญาติของนายพุฒิพัฒน์ไม่ขอให้สัมภาษณ์หรือข้อมูลใดๆทั้งสิ้น
...
หลังเสร็จพิธี นายพนาไพร นราแก้ว ที่ปรึกษากฎหมายของนายพุฒิพัฒน์และ น.ส.วาสนา ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตการเสียชีวิตของนายพุฒิพัฒน์มีเงื่อนงำว่า หากมองในแง่พยานวัตถุสามารถคิดได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ถึงความรู้สึกความรักของทั้งสองอย่างแท้จริง บุคคลทั้งสองจะใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “ลุงกับป้า” โดย 3 วันก่อนเกิดเหตุ นายพุฒิพัฒน์หรือพี่หม่องที่ตนเรียกด้วยความสนิทสนม เปรยกับตนขึ้นมาว่า “ถ้าพี่ตาย ทุกอย่างจะจบไหม ในขณะที่ น.ส.วาสนาก็อยู่ด้วย และพูดขึ้นมาว่า ถ้าลุงตาย ป้าก็จะตายตามด้วย ป้าอยู่ไม่ได้” จากนั้นทั้งสองคนกอดคอกันร้องไห้ จะเห็นว่าทั้งสองคนรักกันมาก ญาติทั้งสองครอบครัวก็รับรู้ถึงความรักของคนทั้งคู่ ไม่มีใครติดใจเหตุการณ์การเสียชีวิตครั้งนี้ อย่างไร ก็ตาม จนถึงขณะนี้ น.ส.วาสนายังไม่ทราบว่านายพุฒิพัฒน์เสียชีวิต เนื่องจากญาติปิดข่าวไม่อยากให้รับรู้ เกรงจะสะเทือนใจ
นายพนาไพรกล่าวอีกว่า ทราบว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ค. หลังจาก น.ส.วาสนารู้สึกตัว ได้ถามหานายพุฒิพัฒน์ โดยเอ่ยเป็นคำพูดว่า “ลุง” สื่อให้ญาติได้รับรู้เหมือนเป็นการเรียกหา ล่าสุดวันที่ 2 ก.ค. แพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ โดยให้ฝึกหายใจด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ญาติทั้งสองฝ่ายได้ฝากให้กำลังใจไปถึง น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ผู้เปิดประเด็นการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ว่า อยากให้น้องได้ใช้ความกล้าหาญช่วยเหลือสังคมต่อไป ไม่อยากให้น้องคิดมากว่าเป็นต้นเหตุหนึ่งในการเสียชีวิตครั้งนี้
เย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า ถึงขณะนี้ ทางญาติของปลัด พม.ไม่มีใครติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต ดังนั้นบุคคลที่สงสัยในการเสียชีวิตเป็นใคร ทำไมต้องออกมาดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ ยืนยันพนักงานสอบสวนพร้อมรับฟังข้อสงสัยของญาติ สำหรับ น.ส.วาสนา พนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบปากคำเนื่องจากยังบาดเจ็บ ไม่พร้อมที่จะให้การ ที่ผ่านมาพนักงานสอบดำเนินการเก็บหลักฐานอย่างละเอียด หากทางญาติติดใจสงสัยในประเด็นใดๆจริง พนักงานสอบสวนพร้อมไขข้อสงสัยทุกประเด็น แม้จะเผาศพไปแล้ว สำหรับผลชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนน่าจะเสร็จสิ้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. เปิดเผยถึงผลสอบวินัยร้ายแรงผู้เกี่ยวข้องกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งว่า นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการ คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบวินัยฯ รายงานว่า ผลสอบเสร็จสิ้น และจะดำเนินการสรุปสำนวน มีความหนากว่า 300 หน้า เพื่อความรอบคอบให้เสร็จภายในคืนวันที่ 2 ก.ค. จากนั้นจะส่งถึงตนในวันที่ 3 ก.ค.
รมว.พม.กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ตนจะต้องส่งให้ฝ่ายกฎหมายตีความเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง หากมีประเด็นข้อสงสัยก็เป็นอำนาจที่ตนจะสั่งสอบสวนเพิ่มเติม แต่หากประเด็นครบถ้วน จะส่งเรื่องเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวง พม. (อ.ก.พ.กระทรวง พม.) กลางเดือน ก.ค.นี้ ทั้งนี้อำนาจการลงโทษไม่ได้อยู่ที่ตน แต่เป็นอำนาจของ อ.ก.พ.กระทรวงที่จะพิจารณา กรณีนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 26 ราย จะต้องดำเนินการรอบคอบ อ.ก.พ.กระทรวงอาจต้องใช้เวลาพิจารณา ไม่สามารถระบุได้ว่าจะสรุปผลได้ในการประชุมครั้งเดียว ส่วนกรณีการเสียชีวิตของนายพุฒิพัฒน์ อดีตปลัด พม.นั้น คิดว่ายังอยู่ในสำนวน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่คณะกรรมการสอบวินัยกำลังสรุปผลสอบ แต่ทั้งนี้จะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องนำเข้าสู่ อ.ก.พ.กระทรวงพิจารณาโทษหรือไม่
เมื่อถามว่า การเสียชีวิตของอดีตปลัด พม.เป็นเพราะความเครียดและถูกกดดันจากการตรวจสอบหรือไม่ พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ทุกอย่างดำเนินการ ไปตามระบบ ไม่ได้ลัดขั้นตอนและบีบคั้นใดๆ คณะกรรมการให้โอกาสทุกคนได้ยื่นเอกสารหลักฐานในการแก้ข้อกล่าวหา ทราบว่าทุกคนได้ยื่นเอกสารจนคณะกรรมการมีความชัดเจนแล้ว จึงได้สรุปสำนวน ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ ใครผิดก็ต้องรับโทษ ตนดูที่ระบบ ไม่ใช่ดูที่ตัวบุคคล ส่วนที่ถามว่า ที่ปรึกษากฎหมายนายพุฒิพัฒน์อ้างถึงการเสียชีวิตของอดีต ปลัด พม.อาจเป็นเพราะน้อยใจที่ไม่สามารถปรึกษาหรือติดต่อใครได้นั้น ได้เชิญนายพุฒิพัฒน์เข้ามาชี้แจงก่อนมีคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เข้าใจถึงการเปิดช่องให้มีการสอบสวนให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นการพูดคุยครั้งนั้นครั้งเดียว หลังจากนั้นไม่เคยได้รับการติดต่อหรือขอเข้าพบจากนายพุฒิพัฒน์เลย เมื่อถามอีกว่าข้อความที่นายพุฒิพัฒน์ระบุว่า “ผมสั่งให้หยุดแล้ว แต่เขาไม่ฟังผม” ตามที่ที่ปรึกษากฎหมายนายพุฒิพัฒน์กล่าวอ้าง พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ไม่ทราบและสงสัยเหมือนกัน ไม่รู้จะขยายผลอย่างไร ต้องรอดูสำนวนการสอบสวนของตำรวจว่าพอมีอะไรให้ตีความได้บ้าง
...
อีกด้านหนึ่ง ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงการเสียชีวิตของนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม. ว่า พม.ยังไม่ได้รายงานรายละเอียดมาให้ทราบ แต่จากการสอบถามได้รับแจ้งว่า การสอบสวนทุจริตเงินผู้ยากไร้ยังคงเดินหน้าต่อไปตามขั้นตอนปกติ ไม่มีการกลั่นแกล้งใดๆ เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า น.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ อดีตข้าราชการ พม. ที่กินยาตายพร้อมกับนายพุฒิพัฒน์แต่รอดชีวิต อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของอดีตปลัด พม. พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว คิดว่า ประเด็นนี้เป็นการคาดการณ์กันไปเอง ส่วนการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจ ในส่วนของกระทรวง พม.ยังดำเนินงานตามระบบ ไม่มีการกดดัน หรือต้องทำอะไรเป็นพิเศษ
เมื่อถามถึงการตรวจสอบการทุจริตภายในกระทรวง พม. ที่ยังมีเรื่องจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวแจกจ่าย ประชาชนของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ฉัตรชัยตอบว่า พม.ยังสอบสวนอยู่ การทุจริตทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้กำชับไปแล้วว่าให้สอบสวนตามขั้นตอน โดยให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย บางกรณีเป็นการกล่าวหากัน บางกรณีเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ทุกอย่างยังต้องสอบสวนไปตามปกติโดยที่ไม่มีอะไรต้องกังวล