8 ฮีโร่ชาวโคราช ผู้เสี่ยงตายช่วย 4 ชีวิตที่ติดอยู่ในรถเก๋งที่กำลังไฟไหม้ เปิดใจนาทีระทึก พุ่งตัวช่วยผู้ประสบเหตุรอดหวุดหวิด ในรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ทางไทยรัฐทีวี...
จากรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการตามหา 8 พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำจนไฟลุกไหม้บริเวณถนนมิตรภาพ ช่วงอำเภอสี่คิ้ว-อำเภอเมืองนครราชสีมา เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ จากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2561 ทีมข่าวไทยรัฐทีวีได้ติดตามจนพบ 8 พลเมืองดีดังกล่าว ได้แก่ นายจักรพันธุ์ จักรแก้ว นายวัชรินทร์ เลื่อยเป็น พนักงาน บ.อริยะ อิควิปเม้นท์ นายอมรเทพ มีมาก นายบวรพงศ์ พรมห์บุตร 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นายประสิทธิ์ สาราบรรณ พนักงานขับรถ บ.ซันกิควอลิตี้โปรดัคส์ จ.สมุทรปราการ นายอุดมเดช ประเสริฐชัยโชคดี น.ส.จิรัชญา ชอบกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลกฤษณา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา และนายวิจิตร สืบสาย พนักงานโรงงาน บริษัท โคราชออโต้โปรดักส์ จำกัด อำเภอสีคิ้ว โดยทั้ง 8 คน ได้มาเปิดใจผ่านรายการ “ถามตรงๆ กับจอมขวัญ” สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ถึงเหตุการณ์และความรู้สึกที่กลายเป็นฮีโร่ จนทุกคนรวมถึงนายกฯ ตามหา
นายวัชรินทร์ เลื่อยเป็น หนึ่งในพลเมืองดี เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุกำลังเดินทางกลับหลังจากไปซ่อมรถยนต์ให้กับลูกค้า จนมาถึงที่เกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ขณะนั้นอยู่บนถนนมิตรภาพช่วงเข้าเมืองโคราช ได้เห็นเหตุการณ์รถคันที่ประสบอุบัติเหตุ กำลังเสียหลักลอยข้ามเกาะกลาง และเห็นผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้หญิงและเด็กหลุดออกมานอกตัวรถ ตอนนั้นที่ตัวรถได้เกิดเปลวไฟลุกขึ้นมา มีคนขับติดอยู่ภายในรถ ตนและนายจักรพันธุ์พร้อมกับ 2 นักศึกษาฝึกงานที่มาด้วยกันจึงรีบไปช่วยคนเจ็บ โดยช่วยอุ้มคนเจ็บที่กระเด็นออกมานอกตัวรถ พร้อมกับนำน้ำดื่มและถังน้ำที่มีติดรถไว้ไปช่วยดับไฟ จากนั้นเปิดประตูดึงผู้ชายคนขับรถที่กำลังถูกไฟลวกออกมาจากรถ โดยระหว่างนั้นได้เห็นนายประสิทธิ์ ก็เข้ามาช่วยเด็กผู้หญิงที่ติดอยู่ด้านเบาะหลังด้วยเช่นกัน
...
นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า วินาทีนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องความกลัว คิดแต่เรื่องช่วยคนเจ็บมาก่อน พอเห็นพวกเขาปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ จึงเดินทางกลับบ้านโดยไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นข่าวใหญ่โต พวกเราทั้ง 4 คน ไม่ได้ติดตามข่าวจนกระทั่งวันต่อมาถึงได้รู้ว่ากลายเป็นข่าวใหญ่ไปแล้ว เมื่อหัวหน้างานโทรมาบอกและมีคนจากสำนักนายกรัฐมนตรีโทรมาหา ทั้งนี้ ที่มีกระแสชื่นชมยกย่องให้เป็นฮีโร่ พวกตนรู้สึกดีใจ บรรยายไม่ถูก แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นฮีโร่แต่อย่างใด ส่วนที่นายกฯอยากพบนั้น รู้สึกตื่นเต้น

น.ส.จิรัชญา ชอบกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลกฤษณา อำเภอสีคิ้ว เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุกำลังขับรถออกจากอำเภอสีคิ้ว ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ 50 เมตร เห็นรถยนต์ดังกล่าวประสบอุบัติเหตุ พลิกคว่ำ และไถลไปกับถนน จนเกิดประกายไฟลุกไหม้ และมีผู้หญิงและเด็กผู้ชายกระเด็นออกจากรถ วินาทีนั้นจึงรีบจอดรถและวิ่งเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ ตอนนั้นมีน้องวัชรินทร์กับเพื่อนวิ่งเข้าไปช่วยเหลือก่อนแล้ว โดยมี 3 คนช่วยดับไฟและอีกหนึ่งคนช่วยอุ้มเด็กผู้ชายที่กระเด็นออกนอกรถ มาส่งให้ตนดูแลไปส่งโรงพยาบาล ดีใจที่ครอบครัวผู้ประสบเหตุปลอดภัยทุกคน แต่พอเป็นข่าวใหญ่จนนายกฯ อยากเจอตัว ยอมรับว่าเป็นความรู้สึกตื่นเต้นและกดดัน เพราะสิ่งที่ทำเหมือนเป็นหน้าที่ปกติของตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ไม่คิดว่าจะเป็นฮีโร่แต่อย่างใด
ด้าน นายประสิทธิ์ สาราบรรณ อีกหนึ่งพลเมืองดี กล่าวว่า ตนได้จอดพักรถอยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ พอเห็นรถชนและเกิดไฟลุก ตอนแรกตกใจจึงชะโงกมองดูจากในรถ เห็นผู้หญิงนอนตะเกียกตะกายอยู่บนถนน จึงรีบวิ่งไปช่วยดับไฟ เพราะก่อนหน้านี้เห็นพลเมืองดีวิ่งเข้าไปช่วยก่อนแล้ว แต่พอผู้หญิงที่นอนบาดเจ็บร้องว่ายังมีเด็กติดอยู่ในรถ จึงรีบไปช่วยเด็กออกมาจากรถทันที เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ตนขับรถไปทำงานตามปกติ ไม่รู้ข่าวที่เกิดขึ้นจนหัวหน้างานโทรมา เลยรู้สึกประหลาดใจ และเมื่อนายกฯ อยากจะพบก็พูดไม่ออก แต่ภูมิใจที่มีส่วนช่วยให้เด็กคนหนึ่งรอดชีวิตจากกองเพลิง
นายวิจิตร สืบสาย หนึ่งใน 8 ฮีโร่ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุกำลังทำงานภายในโรงงานที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถคันดังกล่าวเบรกเสียงดัง และเห็นรถลอยข้ามฝั่งพลิกคว่ำเกิดประกายไฟ จึงรีบนำถังดับเพลิงในบริษัทมาช่วยดับไฟ การที่ไม่มีใครเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ ก็ถือเป็นความภูมิใจตัวเอง ตอนแรกยอมรับว่าที่มีโทรศัพท์จากผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้กำกับ สภ.สีคิ้ว โทรมาตามหาตัวก็รู้สึกกลัวว่าตนทำอะไรผิด หรือมีทรัพย์สินผู้ประสบเหตุสูญหายต้องไปเป็นพยานหรือไม่ แต่เมื่อทราบข่าวว่านายกฯ จะยกย่องให้เป็นฮีโร่ และอยากจะขอพบตัวเลยรู้สึกปลื้มใจ

...
นายอุดมเดช ประเสริฐชัยโชคดี พลเมืองดีไปช่วยชีวิตและนำเสนอเรื่องราวผ่านสื่อออนไลน์ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุกำลังขับรถจากโคราชไปปากช่อง พอมาถึงหน้าโรงงานของนายวิจิตร เห็นรถดังกล่าวพลิกคว่ำไฟลุกท่วม จึงจอดรถรีบข้ามถนนไปช่วย ระหว่างนั้นมีคนช่วยเด็ก 2 คน และคนขับรถออกมาแล้ว เหลือแต่ผู้หญิงที่อยู่ใกล้กับรถที่ไฟลุกไหม้มีอาการบาดเจ็บที่ขาและซี่โครง จึงรีบช่วยนำตัวออกมาให้ห่างจากเปลวไฟ นาทีนั้นไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย นอกจากจะช่วยให้ผู้หญิงคนนั้นปลอดภัย