เรื่องต้องรู้ เอาตัวรอด หากประสบเหตุรถไฟไหม้ ต้องทำอย่างไร? พร้อมวิธีป้องกัน หมั่นดูแลรถยนต์ ไม่ให้เกิดไฟไหม้ หรือการจะซื้อรถมือสอง ต้องเช็กให้ดี...

จากเหตุรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ พุ่งข้ามเกาะกลางถนนชนกับรถเก๋งอีกคัน ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค บนถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ เกิดไฟลุกไหม้ทั้งคัน มีบาดเจ็บ 4 ราย โดยได้มีพลเมืองดีหลายคน เข้าช่วยเหลืออุ้มเด็กน้อยวัย 1 และ 2 ขวบ ออกมาจากรถ รวมทั้งช่วยเหลือแม่ของเด็ก และคนขับ ออกมาได้ทัน ก่อนไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคัน

สำหรับอุบัติเหตุไฟไหม้รถยนต์ ได้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากหลายสาเหตุ และมักเกิดไฟไหม้ กับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซ LPG หรือ NGV  ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือรถเก่าที่มีอายุการใช้งานมานาน รถที่ผ่านการปรับแต่งสภาพ รวมถึงขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ใช้อะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งที่ผ่านมาทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ออกมาแนะนำวิธีป้องกันและแก้ไขเหตุฉุกเฉินจากไฟไหม้รถ มีการกำชับต้องหมั่นตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน สังเกตความผิดปกติของเครื่องยนต์ หากมีสิ่งผิดปกติให้รีบนำรถเข้าศูนย์บริการ

แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยไฟไหม้รถยนต์ ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ตื่นตระหนก นำรถจอดข้างทาง หากไฟไหม้รถเพียงเล็กน้อย ให้ควบคุมเพลิงในเบื้องต้น โดยใช้ถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิงให้ดับสนิท หากมีเปลวไฟออกมาจากฝากระโปรงรถ ให้ปลดสลักฝากระโปรง และฉีดพ่นผ่านทางช่องฝากระโปรงที่แง้มไว้ ห้ามเปิดฝากระโปรงในทันที เพราะจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น เมื่อไฟเริ่มสงบ จึงค่อยๆ เปิดฝากระโปรง โดยใช้ผ้ารองหรือสวมถุงมือ เนื่องจากฝากระโปรงมีความร้อนสูง หากเปิดได้แล้ว ควรฉีดพ่นให้ทั่วห้องเครื่องจนมั่นใจว่าไฟดับสนิท และเมื่อไฟดับสนิท ควรถอดขั้วแบตเตอรี่ออก ป้องกันมิให้เปลวไฟปะทุ

...

ส่วนกรณีเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ให้รีบออกห่างจากรถที่เกิดไฟไหม้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันรถระเบิด และให้รีบโทรศัพท์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 หรือสายด่วนนิรภัย 1784

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไฟไหม้รถยนต์ ทางเจ้าของรถควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน เติมน้ำหม้อน้ำในระดับที่กำหนด รวมถึงเช็กท่อน้ำมันเชื้อเพลิงต้องไม่มีรอยรั่ว ไม่มีเศษวัสดุติดในหม้อน้ำและท่อยาง ต้องปรับตั้งสายพานมีความตึงในค่าที่กำหนด และสังเกตกระโปรงหน้ารถ หากมีเขม่าดำเกาะ แสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์ พร้อมกับตรวจสอบใต้ท้องรถ หากมีรอยน้ำมันหยดควรรีบแก้ไขโดยด่วน
 
นอกจากนี้ควรหมั่นเช็กสายไฟ ต้องไม่มีรอยขาด ไม่มีรอยน้ำมันรั่วซึม ให้สังเกตน้ำมันเชื้อเพลิงหรือก๊าซหากลดลงอย่างรวดเร็ว เครื่องยนต์ร้อนจัด ได้กลิ่นเหม็นไหม้ของยางหรือพลาสติก กลิ่นก๊าซรั่ว เครื่องยนต์มีเสียงดังผิดปกติ ให้รีบนำรถไปตรวจสอบและซ่อมแซมทันที ส่วนภายในรถ ควรจัดเตรียมถังดับเพลิงเคมีขนาดเล็กไว้ด้านข้างคนขับ

รวมถึงไม่ควรซื้อรถมือสองที่ไม่ทราบประวัติการขับขี่มาใช้งาน พร้อมเรียนรู้วิธีแก้ไขเหตุฉุกเฉิน ที่สำคัญควรขับรถในอัตราความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเกิดอุบัติเหตุจะช่วยลดแรงปะทะที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้รถได้.