ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้อง “สันธนะ ประยูรรัตน์” 2 ข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงานและขัดขวางเจ้าพนักงาน ส่งฟ้องศาลแขวงดอนเมือง 1 มิ.ย. ส่วนคดีอั้งยี่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ขณะที่ดาราดัง “ปันปัน-ไต้ฝุ่น” เข้าให้ปากคำคดีรีวิวสินค้าในเครือเมจิก สกิน รับได้ค่าจ้างคนละ 1 แสนบาท เสียใจทำให้เหยื่อเชื่อถือสินค้า พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนสินค้าตรีชฎาในเครือเมจิก สกิน อีกคดี ส่งอัยการฟ้องผู้บริหาร 6 คน เสียหายกว่าร้อยล้านบาท
กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นำโดย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.จับมือสำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำกำลังหลายหน่วยตรวจค้นร้านค้ากว่า 200 แห่งภายในตลาดใหม่ดอนเมือง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่า ขายเครื่อง สำอางและอาหารเสริมไม่ได้มาตรฐาน อาจเป็นอันตรายแก่ประชาชนที่หลงซื้อไปใช้ และไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. พบเครื่องสำอางและอาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐานกว่า 3 แสนชิ้น มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นนำของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างตรวจค้นปรากฏว่า พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมการตลาดใหม่ดอนเมือง เดินทางมาต่อต้าน ต่อมาตำรวจสอบสวนพบว่า พ.ต.ท.สันธนะพร้อม ลูกน้องรวม 11 คน เรียกเก็บค่าคุ้มครองกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาล ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ พร้อมนำตัวมาดำเนินคดีทั้งหมดแล้ว แต่การตรวจสอบเครื่องสำอางและอาหารเสริมผิดกฎหมายยังดำเนินต่อไป
ความคืบหน้าจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 พ.ค. น.ส.สุทัตตา อุดมศิลป์ หรือปันปัน และนายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือไต้ฝุ่น 2 ดารานักแสดงชื่อดังเข้าพบ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.และพนักงานสอบสวน บก.ป.ตามหมายเรียก เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำและชี้แจงกรณีรับเป็นพรีเซนเตอร์รีวิวผลิตภัณฑ์สินค้าเครือเมจิก สกินผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ขณะนี้ออกหมายเรียกดารานักแสดงที่รีวิวสินค้าเมจิก สกินทั้งหมด 37 คน มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว 25 คน เหลือ 12 คนอยู่ระหว่างประสานนัดวันที่สะดวก วันนี้มีเข้ามาพบ 2 คนคือ ปันปัน-สุทัตตา รีวิวสินค้า 3 ผลิตภัณฑ์ได้แก่ สลิมมิลค์ วิตามินชิโนบิ และเซรั่มเมซโซ่ ส่วนไต้ฝุ่น-กนกฉัตร รีวิวสินค้าสลิมมิลค์ ดาราทั้ง 2 คนถือว่าเป็นดาราที่เป็นที่นิยมของประชาชน ข้อมูลที่ให้ไว้กับพนักงานสอบสวนวันนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์แก่รูปคดีเป็นอย่างมาก
...
ปันปัน-สุทัตตากล่าวว่า กรณีที่ตนรับงานรีวิวผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิก สกิน เนื่องจากมีคนกลางติดต่อผ่านผู้จัดการของตนและส่งสินค้ามาให้ลองใช้ก่อน 1 อาทิตย์ ตนทดลองใช้สินค้าจริงเห็นว่าไม่มี ผลข้างเคียง และผู้จัดการตนได้เช็ก อย. เช็กบริษัทที่ผลิตตามที่ระบุข้างกล่องที่แจ้งไว้ เห็นว่าไม่มีความผิด ปกติอะไรจึงรับรีวิว มีเงื่อนไขการโพสต์สินค้า 1 โพสต์ลง 15 วันได้ค่าตอบแทน 100,000 บาท หลังจาก 15 วันตนลบรูปไปแล้ว เมื่อทราบว่าสินค้าที่รีวิวไม่ได้มาตรฐานรู้สึกตกใจและเสียใจมาก มองว่าตนเป็นผู้เสียหายและเป็นส่วนที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายด้วยเช่นกัน อยากขอโทษแทนคนที่มีผลกระทบ ซื้อสินค้าใช้และได้รับผลข้างเคียง หลังจากทราบเรื่องไม่ได้ติดต่อคนกลางที่ส่งสินค้ามาอีกเลย ตนอยากรับผิดชอบต่อสังคมจึงมาให้ความร่วมมือกับตำรวจและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ส่วนไต้ฝุ่น-กนกฉัตรกล่าวว่า สินค้าที่รีวิวคือ สินค้าสลิมมิลค์ มีคนกลางส่งสินค้าผ่านผู้จัดการมาให้ทดลองกินก่อน 1 อาทิตย์ จึงลองกินและแบ่งผู้จัดการกินด้วย เห็นว่าไม่มีผลข้างเคียงจึงรับรีวิว คนกลางจึงส่งสคริปต์ที่ต้องพูดและให้อัดวิดีโอพูดตามสคริปต์ที่ส่งมา พร้อมกับเงื่อนไข 1 โพสต์ลง 15 วัน มีค่า ตอบแทน 100,000 บาทเช่นเดียวกัน หลังจากทราบว่า สินค้าที่รีวิวไม่ได้มาตรฐาน จึงรีบลบและหาวันว่างเข้ามาให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที หลังจากนี้หากมีสินค้าติดต่อให้รีวิว จะตรวจสอบให้รอบคอบมากกว่านี้
ต่อมา พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเมจิก สกิน ดำเนินการผลิตสินค้าที่ไม่ได้ มาตรฐานหรือสินค้าปลอม อย.ว่า หลังจากที่มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผลิตภัณฑ์ตรีชฎา เป็นผลิตภัณฑ์ในเครือกลุ่มบริษัทเมจิก สกิน โดยบริษัทเมจิก สกินไปว่าจ้างบริษัทฮานิวโคเรีย จำกัด ผลิตสินค้ายี่ห้อตรีชฎา เป็นครีมทาใต้วงแขน ที่ผ่านมามีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ 145 คน มูลค่าความเสียหาย 113,219,415.60 บาท พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายและพยานทั้งหมดแล้ว
“ที่ประชุมมีความเห็นทางคดีดังนี้ กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ประกอบด้วย บริษัทเมจิก สกินโดยนายกร พวงสน ผู้ต้องหาที่ 1 (นิติบุคคล) นายกร พวงสน ผู้ต้องหาที่ 2 ในนามส่วนตัว นางวรรณภา พวงสน ผู้ต้องหาที่ 3 น.ส.ตรีชฎา ใจสบาย ผู้ต้องหาที่ 4 บริษัทฮานิวโคเรียโดย น.ส.ปาจารีย์ วงศ์สมบูรณ์ ผู้ต้องหาที่ 5 (นิติบุคคล) และ น.ส.ปาจารีย์ วงศ์สมบูรณ์ ผู้ต้องหาที่ 6 พนักงานสอบสวนประชุมพบว่า คดีมีพยานหลักฐานพร้อมสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คน แจ้งข้อหาร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่าย เครื่องสำอางปลอมอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ร่วมกันฉ้อโกง ประชาชน และแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1-4 ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จะนำผู้ต้องหาทั้ง 6 คนไปส่งอัยการวันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) พร้อมของกลางทรัพย์สินที่ยึดได้ 22 ล้านบาท” รอง ผบ.ตร.กล่าว
ส่วนการดำเนินคดี พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ กรณีขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ค้าสินค้าปลอมแปลง อย.ภายในตลาดใหม่ดอนเมือง พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ขณะนี้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว มีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ท.สันธนะ ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และขัดขวางเจ้าพนักงานสำนวนหนากว่า 200 หน้า คดีนี้พนักงานสอบสวนประชุมร่วมกันมีความเห็นว่า มีพยานหลักฐานแน่นหนา ก่อนสรุปสำนวนการสอบสวนเพื่อสั่งฟ้อง จะส่งสำนวนคดีให้อัยการศาลแขวงดอนเมืองวันนี้เวลา 13.00 น. ส่วนสำนวนคดีอั้งยี่อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนอีกชุด ขณะนี้ยังไม่เสร็จสิ้น