แรงงานไทย 2 ราย ไฟคลอกในไต้หวัน ได้ชดเชยรวมกันกว่า 8 ล้าน ส่วนอีกรายกินก้อยหอยดิบป่วยโคม่า ไม่รู้สึกตัว 2 เดือน ญาติเผยเหมือนปาฏิหาริย์ ส่งกลับถึงไทยรักษา รพ.ราชวิถี เริ่มลืมตา พยักหน้าได้ "อดุลย์" ย้ำ ไปทำงานถูกกฎหมายไม่ต้องจ่ายหัวคิว ได้สิทธิประโยชย์คุ้มครองสูง...



เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 61 ที่กระทรวงแรงงาน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ กรมการจัดหางาน 40,000 บาท แก่ญาติของ นายเชิดศักดิ์ บุรัมสูงเนิน จาก จ.บุรีรัมย์ แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ โรงงานชินพูน สาขาผิงเจิ้น ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแผงวงจรไฟฟ้า รายใหญ่ของโลกในไต้หวัน โดยมีญาติของ นายภานุพงศ์ เสงี่ยม จาก จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแรงงานไทยอีก 1 ราย ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน และญาติของนายฉัตรชัย ขุริดี แรงงานไทยในไต้หวันอีกราย ที่ป่วยจากการเก็บหอยข้างโรงงานไปทำก้อยหอยดิบรับประทาน จนติดเชื้อพยาธิขึ้นสมอง กลายเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่า 2 เดือน ได้เข้าขอบคุณที่ กระทรวงแรงงาน ประสานความช่วยเหลือจนได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ และได้รับการส่งตัวกลับมารักษาใน รพ.ราชวิถี เมื่อวันที่ 15 พ.ค.



น.ส.อภิญญา ยาวะระ อายุ 39 ปี ภรรยาของนายฉัตรชัย กล่าวว่า ตอนอยู่เมืองไทยสามีกินก้อยหอยดิบไม่เคยล้มป่วย แต่หลังเก็บหอยในคลองข้างโรงงานในไต้หวันมากิน ได้ติดเชื้อพยาธิ ทำให้อาการโคม่า และไม่รู้สึกตัวมาตลอด 2 เดือน ตนเดินทางไปเฝ้าอาการ 1 เดือน อาการยังทรงตัวมาตลอด แทบไม่มีความหวัง จนมีการประสานช่วยนำกลับมาเมืองไทย เมื่อวันที่ 15 พ.ค. และส่งตัวเข้ารักษาใน รพ.ราชวิถี ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกที่สามีเริ่มกลับมามีสติเมื่อกลับถึงไทย ลืมตามองหน้าพ่อแม่ได้ กะพริบตา พยักหน้าเมื่อถามได้ แต่ยังขยับแขนขาและพูดไม่ได้ แพทย์บอกต้องใช้เวลา และในวันนี้ได้ส่งตัวกลับไปรักษาต่อที่ รพ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพราะญาติจะสะดวกในการเดินทางมาเฝ้าอาการมากกว่าที่ กทม. โดยใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา 



...

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า แรงงาน 2 ราย ที่เสียชีวิตจากไฟไหม้ ได้รับสิทธิประโยชน์ชดเชยจำนวนมาก โดย นายเชิดศักดิ์ ยังไม่ได้นำกระดูกกลับมาเพราะต้องรอตรวจดีเอ็นเอ ได้เงินช่วยเหลือจากบริษัทนายจ้าง 3,284,285 บาท ค่าจัดการศพจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวัน 117,700 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิตจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวัน 941,600 บาท เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวัน 271,403 บาท เงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ กรมการจัดหางาน 40,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,654,988 บาท ส่วน นายภานุพงศ์ ได้รับรวม 3,713,388 บาท และทายาทยังจะได้รับเงินชดเชยจากกองทุนประกันภัยแรงงานในไต้หวัน เป็นรายเดือน เดือนละ 3,210 บาท จนกว่าจะหมดคุณสมบัติ 



สำหรับกรณี นายฉัตรชัย ซึ่งป่วยจากการได้รับเชื้อโรคจากการรับประทานหอยที่งมได้เองจากคลองระบายน้ำใกล้โรงงาน ได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวันตามสิทธิที่ได้รับ ได้เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวันเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาที่นอกเหนือจากการเบิกจ่ายจากกองทุนประกันภัยแรงงงานไต้หวัน 134,654 บาท เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวันเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งกลับประเทศไทย 228,890 บาท เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวัน ซึ่งสำนักงานแรงงานไทย เกาสง ได้โอนให้แก่ทายาทเรียบร้อยแล้ว 196,472 บาท ส่วนสิทธิประโยชน์เงินทดแทนจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวันกรณีทุพพลภาพ จะต้องผ่านระยะเวลา 6 เดือนจึงจะขอรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 560,016 บาท



"แรงงานไทยที่ไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะได้รับความคุ้มครองดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างทำงาน และกลับจากต่างประเทศ หากประสบปัญหา สำนักงานแรงงานในต่างประเทศที่ประจำอยู่ใน 12 ประเทศ หรือสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศจะเป็นตัวแทนรัฐบาลในการดูแล ขณะนี้มีแรงงานไทยในต่างประเทศกว่า 4 แสนคน ส่งเงินกลับปีละกว่า 1.2 แสนล้านบาท ในปี 2561 ตั้งเป้าจัดส่งอีกกว่า 4 หมื่นคน โดยจะไปเกาหลีใต้ 6 พันคน และวันนี้มีการมอบสัญญาจ้างให้แรงงาน ที่จะไปเกาหลี 400 คน ซึ่งได้แนะนำให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ตั้งใจทำงาน รู้จักอดออม ไม่ยุ่งเกี่ยวการพนัน ยาเสพติด จะมีเงินเก็บกลับบ้านแน่นอน" พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว.