หนีรอดได้2-ดับ1
เพลิงมรณะโหมไหม้บ้านกลางดึก คลอกร่างย่างสด 2 ครอบครัว รวม 4 ศพ รายแรกไฟไหม้ทาวน์เฮาส์ย่านสาธุประดิษฐ์ พ่อแม่ ลูกชาวกรุงเทพฯ วิ่งหาทางออกแต่ไปติดเหล็กดัด โดนไฟไหม้ร่างเกรียมตายทุรนทุรายยกครัว 3 ศพ เพื่อนบ้านผวาเห็นวิญญาณเดินสวนออกมา อีกรายพ่อแม่ลูกชาวแปดริ้ว นอนหลับสนิทในบ้าน จู่ๆไฟไหม้ห้องนอนเผาร่างพ่อดำเป็นตอตะโก แม่กับลูกวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านได้ทัน รอดชีวิตหวุดหวิด
สลดไฟไหม้บ้านพ่อแม่ลูกถูกย่างสดตายสลดยกครัวครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 12 พ.ค. ร.ต.อ.ธนกร ตั้งสกุล รอง สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 265/172 หมู่บ้านเทพนรินทร์ ซอย 3 ซอยสาธุประดิษฐ์ 15 แยก 8 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ประสานเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำรถดับเพลิง 3 คันเข้าระงับเหตุ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ติดกัน 2 หลัง หน้าต่างติดเหล็กดัด พบเพลิงลุกไหม้รุนแรงจากหน้าบ้านชั้นล่างลามขึ้นไปชั้นบน เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงนานกว่า 30 นาที ควบคุมเพลิงไว้ได้แต่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านถูกเผาวอด ขึ้นไปตรวจสอบในห้องนอนชั้น 2 พบผู้เสียชีวิตถูกเพลิงไหม้ร่างเกรียม 1 ศพ และยังพบผู้เสียชีวิตอีก 2 ศพในห้องน้ำชั้นล่าง ถูกย่างสดดำเป็นตอตะโกระบุเพศและตัวบุคคลไม่ได้เช่นกัน คาดว่าทั้งสองพยายามหลบหนีออกจากตัวบ้านแต่ถูกไฟด้านหน้าบ้านล้อมไว้ ขณะที่หลังบ้านมีเหล็กดัดปิดกั้น ทำให้ต้องเข้าไปหลบในห้องน้ำ นำผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ ส่งนิติเวช รพ.จุฬาฯ ตรวจพิสูจน์
นางน้อย (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านให้ข้อมูลกับตำรวจว่า บ้านหลังเกิดเหตุมีพ่อ แม่ และลูกสาว 2 คนอาศัยอยู่ร่วมกัน พ่อเป็นลูกชายเจ้าของร้านขายทองย่านสวนพลู ส่วนแม่ทราบเพียงชื่อเล่นว่า “แมว” ลูกสาวคนโตทำงานย่านสีลม ขณะที่คนเล็กเรียนอยู่ จ.นครราชสีมา ช่วงเกิดเหตุขณะเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำดับเพลิง ตนเห็นนางแมว ผู้เป็นแม่ สวมเสื้อแขนยาวนุ่งกางเกงขายาว เดินสวนออกจากบ้านไปไม่ยอมพูดจา กระทั่งมาทราบภายหลังว่าในบ้านมีผู้เสียชีวิตถึง 3 คน คาดว่าเป็นพ่อ แม่ และลูกสาว ยิ่งทำให้ขนลุกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
...
นายไพทูลย์ สร้อยแสง อายุ 47 ปี เพื่อนบ้านให้การว่า อยู่บ้านเลขที่ 265/171 ติดกับบ้านหลังเกิดเหตุ ช่วงเย็นยังพูดคุยกับผู้ตายที่เป็นผู้ชาย ทราบว่ากำลังต่อเติมพื้นและกันสาดหน้าบ้าน จากนั้นเวลา 01.00 น. ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดเข้าใจว่าเสียงมาจากคอมเพรสเซอร์แอร์ ออกมาตรวจสอบที่ระเบียงชั้น 2 มองเห็นกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากบ้านข้างเคียง รีบวิ่งพาคนในครอบครัวออกจากตัวบ้าน พร้อมขับรถยนต์ออกจากโรงจอดรถ ก่อนโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ผู้เป็นพ่อชอบต่อเติมบ้านด้วยตัวเอง มีเครื่องปั๊มลม ตู้เชื่อมอยู่ในโรงจอดรถ ส่วนผู้เป็นแม่ประดิษฐ์ดอกไม้พลาสติกส่งขาย อาจเป็นเชื้อเพลิงทำให้ติดไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว
ช่วงสายวันเดียวกัน ที่ สน.บางโพงพาง พ.ต.อ.เอกพงษ์ พูลทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.5 เปิดเผยว่า ผลตรวจพิสูจน์ระบุเอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ คือ นายสุชาติ ชุณหกมลรักษ์ อายุ 48 ปี นางรัชฎา ชุณหกมลรักษ์ อายุ 46 ปี และ น.ส.จุฬาลักษณ์ ชุณหกมลรักษ์ อายุ 24 ปี พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ บริษัทสื่อสารแห่งหนึ่งย่านสีลม ทั้ง 3 เป็นพ่อ แม่ ลูก ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อญาติเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม และติดต่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ ต้องรอผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบมีบ้านได้รับความเสียหายรวม 5 หลัง เจ้าหน้าที่เตรียมมอบเงินช่วยเหลือให้หลังละ 3,000 บาท ส่วนบ้านเกิดเหตุเตรียมมอบเงินช่วยเหลือให้ญาติจัดการศพรายละ 10,000 บาท รวม 30,000 บาท ทั้งปิดประกาศบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าเด็ดขาด เนื่องจากบ้านถูกไฟเผาไหม้ทั้งหลัง
เหตุเพลิงไหม้คลอกร่างย่างสดเจ้าของบ้านอีกราย เปิดเผยเมื่อเวลา 04.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.จตุรโชค เพชรคง รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ไปตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บ้านปูนชั้นเดียวสภาพเก่า ปลูกสร้างบนพื้นที่ราว 60 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด เลขที่ 6/10 ซอยซันโย ถนนสุวินทวงศ์ หมู่ 2 ต.คลองอุดมชลขจร อ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อไปถึงเพลิงสงบแล้ว บ้านเกิดเหตุมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จุดเกิดเหตุอยู่ในห้องนอนทางฝั่งซ้ายของบ้านพบผู้เสียชีวิตชื่อนายเรืองเดช บวกขุนทศ อายุ 45 ปี ถูกไฟคลอกร่างไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก ในห้องถูกเพลิงไหม้ เสียหายทั้งหมด มีพัดลมสภาพเก่าพร้อมสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ และก้านธูปกำใหญ่ปักไว้บนกระถางธูป
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้ช่วยเหลือนางกาญจนศิริ จันทร์เต็มดวง อายุ 42 ปี และ ด.ช.ภานุพงษ์ บวกขุนทศ อายุ 12 ปี 2 แม่ลูกที่มีอาการสำลักควันไฟนอนหายใจรวยรินอยู่หน้าบ้าน ก่อนนำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายส่ง รพ.พุทธโสธร ให้แพทย์ช่วยชีวิต กระทั่ง 2 แม่ลูกอาการพ้นขีดอันตราย แต่ยังให้ปากคำไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในความตื่นตระหนกและเศร้าเสียใจกับการสูญเสีย
นายสายนต์ คนแรม เพื่อนบ้านข้างเคียงให้ข้อมูลตำรวจว่า ตื่นขึ้นมากลางดึกได้ยินเสียงนางกาญจนศิริวิ่งออกมานอกบ้านร้องตะโกนขอความช่วยเหลือว่าบ้านถูกไฟไหม้ วิ่งไปดูเห็นเพลิงลุกไหม้ในบ้านนางกาญจนศิริอย่างรุนแรง รีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากนั้นนำถังเคมีดับเพลิงเข้าไปฉีดดับไฟในบ้านเกิดเหตุแต่ไฟลุกลามเร็วมาก กระทั่งรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลนครเนื่อง มาฉีดน้ำดับเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้สำเร็จ ตนต้องพังประตูรั้วหน้าบ้านเข้าไปช่วย 2 แม่ลูกที่อยู่ในอาการสำลักควันออกมาได้ ก่อนจะทราบภายหลังว่านายเรืองเดช สามีนางกาญจนศิริถูกไฟคลอกเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้กั้นพื้นที่เกิดเหตุห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ว่า เกิดจากสะเก็ดไฟจากธูปที่จุดไว้กระเด็นตกใส่วัสดุจนติดไฟลุกไหม้ขึ้น หรือเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจากพัดลมเก่า ตำรวจสันนิษฐานว่าขณะที่ทุกคนในบ้านนอนหลับพักผ่อน โดยผู้ตายนอนอยู่ในห้องเกิดเหตุคนเดียว ส่วนลูกเมียนอนอยู่อีกห้อง เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ผู้ตายอาจสำลักควันจนหมดสติทำให้หนีออกมาไม่ทันและถูกไฟคลอกตายคาที่ ขณะที่ 2 แม่ลูกสะดุ้งตื่นขึ้นมาพบว่าไฟไหม้บ้าน รีบวิ่งหนีออกมาตะโกนเรียกเพื่อนบ้านให้ช่วยเหลือและเกิดสำลักควันไฟ จะต้องรอให้ทั้งคู่อาการดีขึ้นถึงจะสอบปากคำอย่างละเอียดได้
...