ศาลปกครอง นัดชี้ชะตา กทม.ปล่อย 5 ตลาดทำละเมิดป้าทุบรถ 16 พ.ค. ด้านคุณป้า ปัดให้ความเห็น หลังความเห็นองค์คณะ สั่งรื้อ 5 ตลาด เหตุก่อสร้างไม่ชอบ พร้อมสั่ง กทม.ชดใช้ฐานละเมิดสิทธิการพักอาศัยโดยสงบ รายละแสนสอง 


เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ศาลปกครองกลาง ได้ออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ เจ้าบ้านในหมู่บ้านเสรีวิลล่าสวนหลวง ร.9 พร้อมพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตประเวศ สำนักงานเขตประเวศ และกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 กรณีปล่อยให้เกิดการสร้างตลาด 5 แห่ง รอบบ้านพักโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในการพิจารณาคดีครั้งนี้ คู่กรณีได้มีการแถลงปิดคดี

โดย น.ส.บุญศรี ยืนยันว่า บ้านพักของตนอยู่ในพื้นที่โครงการที่ 1 ที่ตามการจัดสรรระบุให้เป็นที่พักอาศัย ไม่สามารถทำตลาดได้ ส่วนผู้ร้องสอดซึ่งเป็นเจ้าของตลาดก็ได้ยืนยันว่า มีหลักฐานจากสำนักงานที่ดินประเวศ ยืนยันว่า พื้นที่บ้านของ น.ส.บุญศรี อยู่ในโครงการที่ 2 ที่สามารถจัดสร้างอาคารพาณิชย์เพื่อการค้าได้ 

หลังจากนั้นองค์คณะตุลาการเจ้าของสำนวนคดี ก็ได้ให้ตุลาการผู้แถลงคดี ซึ่งเป็นตุลาการนอกองค์คณะแถลงความเห็นส่วนตัว ที่องค์คณะจะนำไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยตุลาการผู้แถลงดดีมีความเห็นว่า ตามพยานหลักฐานที่ตุลาการเจ้าของสำนวนได้แสวงหาและไม่อาจโต้แย้งได้ชัดเจน พบว่า ที่ดินบ้านของ น.ส.บุญศรี อยู่ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า โครงการ 2 ที่มีการขออนุญาตจัดสรรที่ดินเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม ซึ่งตามผังของโครงการกำหนดให้เป็นอาคารพาณิชย์ จำนวน 51 ห้อง โดยมีระยะความกว้าง 8 หรือ 10 คูหา แต่ในข้อเท็จจริงมีการสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียวเพื่อทำตลาด ซึ่งไม่ตรงกับแผนผังของโครงการที่ขออนุญาตจัดสรรที่ดิน จึงเป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน และ พ.รบ.ควบคุมอาคาร

...

ดังนั้น การที่ผู้ว่าฯ กทม. ออกใบรับแจ้งก่อสร้างอาคารตลาดทั้ง 4 แห่งให้กับผู้ร้องสอดซึ่งเป็นผู้ประกอบการตลาดสวนหลวง ตลาดรุ่งวานิชย์ ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา จึงเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ปล่อยให้มีการจัดตั้งตลาดร่มเหลือง โดยไม่ได้ขออนุญาต และก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ น.ส.บุญศรี แม้จะอ้างว่าได้ให้เจ้าหน้าที่ กทม.ไปดูแลในเรื่องความสะอาด การจราจร และความเดือดร้อนรำคาญ รวมถึงจับกุมผู้กระทำผิดดำเนินคดีก็ตาม แต่ก็ยังพบว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ไม่ได้แก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดเป็นรูปธรรม คือ ระงับการประกอบกิจการตลาดทั้ง 5 แห่ง กลับปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ น.ส.บุญศรี และประชาชนในหมู่บ้านต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 52 จนถึง 23 ก.พ. 2561 จึงถือว่าผู้ถูกฟ้องทั้ง 4 ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตาม  พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ร.บ.สาธารณสุข รวมทั้งละเมิดสิทธิในการอยู่อาศัยอย่างสงบของ น.ส.บุญศรี 

จึงเห็นควรที่องค์คณะจะมีคำพิพากษาให้เพิกถอนใบรับแจ้งก่อสร้างอาคารตลาดทั้ง 5 แห่ง และสั่งให้เจ้าของตลาดรื้อถอนตลาดภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด ถ้าไม่ดำเนินการให้ กทม.ดำเนินการรื้อเองโดยเจ้าของตลาดออกค่าใช้จ่าย และให้ระงับการประกอบกิจการตลาดทั้ง 5 แห่ง และห้ามผู้ค้ารายย่อยตั้งแผงค้าในหมู่บ้าน ระงับเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนในหมู่บ้าน ให้เป็นรูปธรรมภายใน 7 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด รวมทั้ง กทม.ต้องชดใช้ค่าสินไหมต่อการทำละเมิด แก่ น.ส.บุญศรีกับพวกรวม 4 คน คนละ 50 บาทต่อวันต่อคน นับแต่วันที่ 10 มี.ค. 54 จนถึงวันที่ 23 ก.พ. 61 ที่ผู้ว่าฯ กทม.สั่งระงับกิจการตลาดทั้ง 5 แห่ง เป็นรูปธรรม คิดเป็นจำนวนวัน 2,542 วัน คิดเป็นค่าสินไหมทดแทนต่อคน 127,100 บาท ภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับแต่วันที่ 30 ก.ย. 56 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จ และให้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวมีผลต่อไปจนกว่าคดีถึงที่สุด

จากนั้นองค์คณะก็ได้แจ้งคู่กรณีว่าศาลนัดฟังคำพิพากษาในดคีนี้วันที่ 16 พ.ค. เวลา 10.30 น. หากฟังแล้วคู่กรณีติดใจสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันอ่าน 

ด้าน น.ส.บุญศรี กล่าวสั้นๆ ภายหลังว่า ยังไม่ขอออกความเห็นใดๆ เนื่องจากจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล สิ่งที่ทำเป็นการต่อสู้มาหลายปีเพื่อขอคืนที่อยู่อาศัยและความเป็นธรรม ขอให้รอฟังคำพิพากษาวันที่ 16 พ.ค.นี้ แล้วจะให้ความเห็นได้.