รวบวิศวกรหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน คาสนามบินดอนเมือง หลังขนซองกระสุนปืนเอ็ม-16 ทุ่นระเบิดเคลย์มอร์ ที่ใช้การไม่ได้แล้ว ขึ้นเครื่องกลับญี่ปุ่น อ้างซื้อมาจากเวียดนามและสายการบินอนุญาตให้นำกลับมาได้ ด้านรองโจ๊กชี้ อีโอดีตรวจสอบแล้ว ทั้งหมดใช้งานไม่ได้ ยันไม่เกี่ยวก่อการร้าย เป็นเพียงรสนิยมผู้ต้องหาชอบสะสม

รวบวิศวกรลูกครึ่งญี่ปุ่นอเมริกัน ขนซองปืนเอ็ม-16 ทุ่นระเบิดใช้ไม่ได้แล้วขึ้นเครื่องบิน เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 พ.ค. ที่ สน.ดอนเมือง (ส่วนแยก) ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายฮิราโน ทาเครุ ชาวญี่ปุ่น ลูกครึ่งอเมริกัน อายุ 27 ปี หนังสือเดินทางประเทศญี่ปุ่น เลขที่ทีเค 6983130 อาชีพวิศวกร พร้อมของกลาง ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (ไม่มีดินระเบิด) M18A1 จำนวน 1 ทุ่น ตัวจุดระเบิด M57 จำนวน 1 EA แมกกาซีนใส่กระสุน 5.56 มม. (ยาว) 1 แม็ก แมกกาซีน 5.56 มม. (สั้น) 13 แม็ก แมกกาซีนกระสุน 7.62 มม. 8 แม็ก แมกกาซีนกระสุน .05 นิ้ว 1 แม็ก โดยกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครอง พายุทธภัณฑ์หรือวัตถุอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานหรือบุคคลไปกับอากาศยาน นำเข้ายุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า นายฮิราโนกำลังจะกลับประเทศญี่ปุ่นโดยสายการบินแอร์เอเชีย แต่เมื่อถึงจุดเอกซเรย์ เจ้าหน้าที่พบอาวุธยุทธภัณฑ์เป็นจำนวนมาก ได้ควบคุมตัวไว้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า ซื้ออาวุธดังกล่าวซึ่งไม่สามารถใช้การได้มาจากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เพราะเห็นว่ามีลวดลายสวย ซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นเดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยก่อนขึ้นเครื่องได้สอบถามไปยังสายการบินที่เมืองโฮจิมินห์แล้ว รับแจ้งว่าสามารถนำชิ้นส่วนอาวุธเหล่านี้ขึ้นเครื่องได้ จึงนำขึ้นเครื่องเข้ามายังประเทศไทย โดยนั่งเครื่องมาลงที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.61 และท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทยจนครบกำหนดการเดินทางกลับ จึงนำชิ้นส่วนและซองกระสุนเหล่านี้กลับไปเป็นที่ระลึกด้วยแต่มาถูกจับเสียก่อน

...

รอง ผบช.ทท.กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ EOD แจ้งว่า ทุ่นระเบิดที่พบนั้นเป็นชิ้นส่วนประกอบกับระเบิด แบบเคลย์มอร์ ที่ไม่มีดินระเบิดและไม่มีเชื้อปะทุ และซองบรรจุกระสุนที่พบใช้งานไม่ได้ และไม่มีอันตราย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบเข้าออกประเทศไทย 3 ครั้ง ด้วยสถานะนักท่องเที่ยว สำหรับของกลางดังกล่าว ถึงใช้การไม่ได้ แต่ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามข้อหาในประเทศไทย

“กรณีนี้ไม่ได้เป็นการก่อการร้าย ได้ไปตรวจสอบที่พักผู้ต้องหาย่านรัชดา สุทธิสาร ไม่พบสิ่งผิดปกติ เป็นเพียงรสนิยมการสะสมของเขา ขณะนี้สายการบินยังคงเดินทางตามปกติ สนามบินยังให้บริการตามปกติ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว