บุกรุกที่ต่อเติมดัดแปลง ‘วิระชัย’ นำกำลังค้นรอบ 4 ‘สันธนะ’ เจอข้อหาหมิ่นฯ

โยธาเขตดอนเมืองสั่งปิดตลาดใหม่ดอนเมืองแล้ว หลังพบความผิดชัดเจน 5 ข้อหา บุกรุกที่สาธารณะ ก่อสร้างต่อเติมดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนสันธนะ ประยูรรัตน์ ไม่รอด โดนแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะ ปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันตำรวจลุยค้น 24 ร้านต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 พบ 15 ร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมาย ยึดของกลาง 15,423 ชิ้น ขนขึ้น 6 ล้อ 3 คัน ท่ามกลางความไม่พอใจของ สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจที่มาป่วนรายวัน ส่วน ม้า-อรนภา เข้ามอบตัวกองปราบฯคดีเมจิกสกินแล้ว

กรณี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.นำกำลังตำรวจร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจค้นร้านค้ากว่า 200 แห่ง ในตลาดใหม่ดอนเมือง เนื่องจากได้รับการร้องเรียน ขายเครื่องสำอางและอาหารเสริมไม่ได้มาตรฐาน มีการปฏิบัติการตรวจค้นต่อเนื่อง 3 วันติด ยึดของกลางจำนวนมากไปตรวจสอบเพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ฝ่ายตลาด มี พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมการตลาดใหม่ ออกมาโวยวายขัดขวางไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้

ตำรวจยังเข้าตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมืองต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5พ.ค. ที่ตลาดนัดใหม่ดอนเมือง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจกว่า 700 นาย ปล่อยแถวระดมตรวจค้น 24 จุด ตามหมายค้น โดย พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า 3 วันที่ผ่านมา ตรวจค้นไปทั้งหมด 157 จุด พบร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย 122จุด จับกุมผู้ต้องหา 122 ราย สำหรับร้านค้าที่ได้รับการตรวจค้นแล้วสามารถเปิดได้ตามปกติ ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ต้องการมาซื้อของ สามารถมาซื้อได้ตามปกติ รวมถึงร้านค้าได้ มั่นใจว่าของไม่ผิดกฎหมาย สามารถเปิดร้านได้ทันที ในตอนนี้การตรวจค้นยิ่งนานวันจะยิ่งเข้มข้นขึ้น หากวันนี้ยังไม่แล้วเสร็จ จะเพิ่มมาตรการเข้มงวดกว่าเดิมในวันพรุ่งนี้ เพราะสถานที่แห่งนี้จะต้องสแกนตรวจค้นทุกร้านค้าให้ 100 เปอร์เซ็นต์ กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย จะเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับของกลางที่ยึดมา จะดึงสารบางอย่างให้คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไปตรวจ เพื่อจะได้แจ้งข้อหากับผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการดำเนินคดีต่อไป ส่วนของกลางที่ยึดมาได้นั้น จะให้ศาลมีคำสั่งออกมาว่าจะดำเนินการอย่างไร ต่อไปเช่นกัน โดยวันนี้มีแม่ค้ามาแสดงเจตจำนงให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจค้นไม่ต่ำกว่า 30 ราย ยืนยันจะทำตามกฎหมาย ใครจะมากดดันไม่ได้เพราะทำเพื่อประชาชน

ด้าน ภช.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า อย.จะทำงานร่วมกับตำรวจจนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยจะปรับปรุงระบบติดตามตรวจสอบให้รัดกุมขึ้น ทั้งนี้เมื่อหลายเดือนก่อน เจ้าหน้าที่ อย. เคยมาตรวจแล้ว แต่ด้วยพื้นที่กว้าง อาจจะทำให้ตรวจไม่หมด อาจจะมีการลักลอบขายอยู่ จะปรับปรุงการทำงานของ อย. ต่อไป

...

ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล เดินทางมายังบริเวณที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นร้านค้า ด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า เวลไฟร์ ทะเบียน ฆศ 474 กรุงเทพมหานคร มีรถติดตามมา 1 คัน ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำ ทะเบียน ญศ 747 กรุงเทพมหานคร แต่เจ้าหน้าที่ได้กันตัว พ.ต.ท.สันธนะและผู้ติดตามออกจากจุดตรวจค้น โดยชี้แจงว่าจุดดังกล่าวเป็นเขตปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้า พร้อมค้นตัวนายคาวี น้ำใจ อายุ 49 ปี คนขับรถ พ.ต.ท.สันธนะ หลังเห็นว่าใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำ มีสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่หน้าอกซ้าย และนายคมกริช ทองแก้ว อายุ 33 ปี คนขับรถปาเจโร พร้อมทั้งค้นรถทั้งสองคัน ใช้เวลา 5 นาทีไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ขณะที่นายคาวีบอกว่า เสื้อแจ็กเกตที่ใส่มานั้นเพื่อนให้มา

ขณะเดียวกันได้มีการโต้คารมกันไปมาระหว่างตัว พ.ต.ท.สันธนะกับตำรวจที่รักษาการณ์อยู่บริเวณดังกล่าวด้วยเสียงดังลั่น โดย พ.ต.ท.สันธนะสั่งห้ามตำรวจแตะเนื้อต้องตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ชี้แจง เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดย พ.ต.ท.สันธนะได้เอะอะโวยวายการตรวจค้นของตำรวจที่ไปตรวจค้นคนขับรถของ พ.ต.ท.สันธนะ ข้อหาใส่เสื้อคลุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าผิดตรงไหน “ถ้าใส่จะมีปัญหาไหม เพราะเป็นอดีตตำรวจเก่า วันนี้รักตำรวจขอใส่สักวัน ก่อนเอาไปเผาทิ้ง” พร้อมทั้งตะคอกใส่หน้าตำรวจที่จะค้นกระเป๋าส่วนตัวว่า “รู้ไหมกระเป๋ายี่ห้ออะไร ใบเท่าไหร่” แล้วกระชากกระเป๋าคืนมาจากตำรวจมาเปิดให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเอง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ตลอดเวลา พ.ต.ท.สันธนะมีอารมณ์เกรี้ยวกราดเดินต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บันทึกตรวจค้น ทำท่าจะถ่มน้ำลายใส่ด้วยความไม่พอใจหลายครั้ง ท่ามกลางบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดกรูเข้ามาดูเหตุการณ์ จนตำรวจควบคุมฝูงชนต้องเข้ากระชับพื้นที่ล้อมวงโดยรอบ กันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ออกไป เมื่อการตรวจค้นแล้วเสร็จ ตำรวจได้ทำบันทึกการตรวจค้น และยื่นให้ลงชื่อ พ.ต.ท.สันธนะและผู้ติดตามลงชื่อ ก่อนให้นำรถออกจากเขตปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยทันที ทำให้เหตุการณ์ที่ตึงเครียดเบาลง

ต่อมา พ.ต.ท.สันธนะเปิดแถลงข่าวว่า เหตุการณ์ที่ถูกค้นรถและค้นตัว ขอให้ตัดสินจากภาพของสื่อมวลชนเอาเอง ตำรวจที่ปฏิบัติกับตนเป็นอดีตคนเคยรู้จักทั้งนั้น ส่วนนายตำรวจใหญ่บางนายที่ชอบ เปลี่ยนชื่อ แนะนำให้ไปเปลี่ยนนามสกุลด้วย เป็นผู้ใหญ่จะต้องมีความเมตตา แต่สิ่งที่ทำอยู่ไร้ซึ่งความเมตตาต่อคนทำมาหากิน ตรวจมา 4 วันแล้วยังไม่จบ ลูกค้าที่สั่งของจากพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ยกเลิกออเดอร์ไปหมด เพราะกระแสการเข้าค้น ตำรวจจะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง หากตนเป็นผู้ปฏิบัติไม่จำเป็นต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ แค่ตักตัวอย่างในเครื่องสำอางผลิตภัณฑ์นั้นๆไปตรวจสอบ ใช้รถกระบะก็พอ แต่เล่นเอารถบรรทุกมาค้นขนาดนี้

อดีตตำรวจสันติบาลกล่าวต่อว่า ส่วนที่เจ้าหน้าที่พบโรงงานที่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจำหน่าย 3 แห่ง ขอโทษสังคมที่ปล่อยปละละเลย ขอชี้แจงว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ในอาคารพาณิชย์ บริษัทได้ขายไปให้ผู้ที่ซื้อแล้ว ใครจะเอาไปทำอะไรสามารถทำได้ วิธีการของโรงงานดังกล่าว จะนำคนมาแต่เช้าเข้าทางประตูข้าง ขึ้นไปผลิตข้างบน ไม่มีใครทราบ เพราะด้านล่างเปิดขายสินค้าตามปกติ ยืนยันว่าร้านค้าในตลาดที่มีมากกว่า 500 ร้าน ขายของถูกต้องตามกฎหมาย

มีรายงานว่าผลการตรวจค้นในช่วงเช้า 24 จุดตามหมายศาลแขวงดอนเมือง พบว่ามีร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายทั้งหมด 15 จุด ยึดของกลางทั้งหมด 15,423 ชิ้น ผู้ต้องหา 15 คน ขึ้นรถ 6 ล้อ จำนวน 3 คัน ใช้กำลังเจ้าหน้าที่นับ 100 นาย ยืนเรียงแถวหน้ากระดานกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไป โดยมี พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ อย่างไรก็ตาม อีก 9 ร้านค้า เจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายศาลแขวงดอนเมืองตรวจค้นเพิ่มอีก 16 จุด

...

ต่อมาเวลา 16.45 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.เดินทางมายังตลาดใหม่ดอนเมือง เพื่อร่วมแถลงข่าวสรุปผลการเข้าตรวจค้นกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง โดย พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ตั้งแต่ตรวจค้น 2-5 พ.ค. พบร้านที่ทำผิดกฎหมาย 151 ร้าน ยึดของกลาง 1,408 รายการ ทั้งหมด 207,034 ชิ้น ตรวจสอบพบว่าตลาดแห่งนี้มีความผิดเพิ่มอีก 5 ข้อหา คือ 1.บุกรุกที่สาธารณะคลองเปรมประชากร เป็นอาคารด้านหลังตลาดทั้งตึก สน.ดอนเมืองรับแจ้งความคดีที่ 764/2561 2.ก่อสร้างต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณตัวอาคาร โดยต่อเติม 200 กรรม 200 วาระ ทาง สน.ดอนเมืองรับเลขคดีที่ 765/2561

3.ก่อสร้างต่อเติมอาคารบริเวณทางเดินอาคาร ความผิดในคดีที่ 766/2561 4.ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีเลขที่ 767/2561 5.ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีเลขที่ 768/2561 ทั้ง 5 ข้อหา แจ้งความผิดต่อ บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ จำกัด ส่วนความผิดที่ 6.คือการดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 136 ตามประมวลกฎหมายอาญา คดีเลขที่ 769/2561 แจ้งแก่ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่คือ พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.สก. ในวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ถอดคลิปวันนั้นประกอบการแจ้งความต่อไปให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อไป ส่วนการขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน

รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีมีกระแสข่าวมีผู้มีอิทธิพลเก็บรายเดือนผู้ประกอบการแผงละ 1,500 บาท หากมีจริง ขอให้ประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้น ฐานกรรโชกทรัพย์ ได้สั่งการให้ สน.ดอนเมือง เชิญร้อยเวรรับแจ้งความถึงที่นี่ ถ้ามีก็มาแจ้งความได้

...

ด้านนายบัญชา สืบกระพัน หัวหน้าฝ่ายโยธาสำนักงานเขตดอนเมืองกล่าวว่า 5 ข้อหาเบื้องต้นมีความผิดชัดเจน ทั้งด้านหลังตึกที่รุกคลอง การซอยห้องในตัวอาคารให้เชื่อมกัน การทำทางเดินระหว่างอาคาร การทำกันสาดหน้าตัวอาคาร ทั้งหมดนี้ มีความผิด ต้องระงับใช้ตัวอาคารที่ผิดกฎหมายทั้งหมด ในวันที่ 6 พ.ค. เขตดอนเมืองจะนำหมายมาติดห้ามเข้าออกตัวอาคารทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนที่เปิดเป็นตลาดแอร์พอร์ต (ตลาดใหม่ดอนเมือง) ที่ผิดกฎหมาย เพราะซอยห้องเป็นล็อกๆ ทำไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อถามว่า หมายถึงปิดตลาดโดยปริยายใช่ไหม นายบัญชากล่าวว่าปิดจนกว่าจะแก้ไขแปลนแล้วยื่นใหม่ใน 30 วัน หากยื่นแล้วไม่ผ่านต้องรื้อถอนทั้งหมด

ขณะที่นายปรีชา มงคลหัตถี ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของราชพัสดุ ให้เอกชนทำสัญญาเช่า หากทางเขตพบว่ามีความผิดในเรื่องตัวอาคารแล้วไม่ทำการแก้ไข กรมธนารักษ์มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญากับทางเอกชนได้

ส่วนคดีรีวิวสินค้าเมจิกสกิน ที่มีดาราหลายคนรับจ้างเป็นผู้รีวิวสินค้านั้น เช้าวันเดียวกัน ที่กองบังคับ การปราบปราม (บก.ป.) นายอรนภา หรือม้า กฤษฎี อายุ 63 ปี ดารา-พิธีกรชื่อดัง เข้าพบ พ.ต.ท.ทรงพล หมอกกลั่น สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำกรณีรับจ้างรีวิวโฆษณาเฟรินวิตามิน ผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง มีสีหน้ายิ้มแย้มไม่ตึงเครียด พร้อมกล่าวภายหลังให้ปากคำเสร็จสิ้นว่า มาให้ปากคำในฐานะพยาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ในส่วนคำให้การ ก็ตอบตามความเป็นจริงถึงที่มาที่ไปที่ได้เข้าไปรับงานริวิวสินค้าตัวนี้ เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มีคนกลางติดต่อให้รีวิวสินค้า ได้ค่าจ้าง 20,000 บาท ตนเป็นดารา เป็นพิธีกร คืออาชีพเรา ใครมาจ้างให้รีวิวสินค้าก็รับ ต่อมาเขานำสินค้าพร้อมสคริปมาให้ เมื่อเปิดข้างกล่องสินค้า มีรายละเอียดชัดเจนดี ทั้ง อย. วันที่ผลิตและหมดอายุ ดูแล้วน่าเชื่อถือ จึงรีวิวให้

...

นายอรนภากล่าวต่อว่า ยอมรับว่าผิดเองที่ไม่ยอมตรวจสอบดูให้ดีก่อนรีวิว อีกทั้งยังไม่ได้ทดลองใช้ ยอมรับในความผิดพลาดเพราะรู้เท่า ไม่ถึงการณ์ ถูกเขาหลอก ส่วนข้อหานั้นเจ้าหน้าที่บอกว่าอาจจะเข้าข่ายโกหก หลอกลวง มีโทษทั้งจำและปรับ ทั้งนี้ ตำรวจได้ขอร้องเหล่าดาราคนมีชื่อเสียง หรือพวกเน็ตไอดอลว่า เวลาจะโฆษณาหรือรีวิวสินค้าอะไรให้ตรวจสอบให้ดี เพราะคนมีชื่อเสียงเวลาพูดอะไรประชาชนก็จะเชื่อถือ หลังข่าวนี้แพร่กระจายออกไปได้เกิดผลกระทบกับครอบครัวของตนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแม่ที่อายุ 93 ปี ท่านตกใจและกลัวมาก เพราะเป็นห่วง เนื่องจากเป็นลูกคนเดียว อีกทั้งที่ผ่านมาก็ประคับประคองความรู้สึกของคุณแม่ มาโดยตลอด หลังเกิดเรื่องเชื่อว่าต่อไปเจ้าของสินค้าจะต้องคิดให้มากขึ้น ว่าสินค้าทุกอย่างก่อนนำสู่ตลาดและให้ดารารีวิวจะต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน

พ.ต.ท.ทรงพลกล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำไว้ก่อน เป็นคำให้การที่มีประโยชน์ต่อรูปคดี ยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด ต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน แล้วจะรวบรวมพยานหลักฐานเข้าห้องประชุมเสนอเรื่องให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และคณะพนักงานสอบสวนพิจารณาอีกทีว่าบุคคลใดเข้าข่ายกระทำความผิดข้อหาใดบ้างต่อไป

ล่าสุดเวลา 18.30 น. พล.ต.อ.วิระชัยไปตรวจร้านครีม ดี เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์เลขที่ 199/156 ภายในตลาดใหม่ดอนเมือง พบเครื่องจักรบรรจุผลิตภัณฑ์เสริมความงามและเครื่องจักรผลิตอาหารเสริม ที่ชั้นลอยของอาคาร ยึดของกลางทั้งหมด 1 คันรถ 6 ล้อ ไปไว้ที่ บก.จร. เพื่อตรวจสอบต่อไป ขณะที่ พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ที่อาคารแห่งนี้พบเครื่องจักรสำหรับนำวัตถุดิบบรรจุถุง เครื่องจักรนำส่วนผสมลงแคปซูล ถือว่าครบวงจร สมบูรณ์แบบจำหน่ายในราคาชุดละ 1,200 บาท หรือเป็นแพ็ก แพ็กละ 25,000 บาท ถือว่าแพง อยากให้ไปทำที่ถูกกฎหมาย เข้าไปขอจดแจ้ง อย.ให้เป็นมาตรฐานสู่สากล สำหรับวันนี้ยึดของไปตรวจสอบ กลับไปรวบรวมเอกสาร ค่อยมาแจ้งความเอาผิดตอนหลัง เบื้องต้นน่าจะมีการปลอม อย.