สมาพันธ์พุทธฯ วอนให้ดูเจตนา พระเถระมีเอี่ยว

นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา อัด พศ.ขาดธรรมาภิบาลทำงานรวบรัดไม่รายงานตามขั้นตอนให้มหาเถรสมาคมทราบ ก่อนร้องทุกข์กล่าวโทษ 5 พระเถระชั้นผู้ใหญ่เอี่ยวเงินทอนวัด ด้านประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย วอนชาวพุทธตั้งสติอาจแค่เข้าข่ายใช้เงินผิดประเภท จะให้อาบัติปาราชิกไม่เห็นด้วย “บิ๊กฉัตร” จ่อถก “สุวพันธุ์-พศ.” ปมพระผู้ใหญ่ถูกกล่าวหา ขณะที่ “ผบก.ปปป.” เผย “ผอ.พศ.” จ่อแจ้งความคดีเงินทอนวัดลอต 3 ที่เหลืออีก 7 วัด

กรณี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เอาผิดพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ประกอบด้วย พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 รวมทั้งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ อีก 2 รูป ฐานทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ขณะที่พระชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเกี่ยวข้องต่างแปลกใจหลังถูกแจ้งความเอาผิด ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ขอร้องพระสงฆ์กลุ่มต่างๆ ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย อย่าออกมากดดันการ ตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัด ยืนยันทำไปตามพยานหลักฐาน

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 เม.ย. นายสรณา อนุสรณ์ทรางกูร อดีตรองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ในฐานะนักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา กล่าวว่า เท่าที่มองการดำเนินการของ ปปป. และ ผอ.พศ. ทำงานรวบรัด และที่สำคัญการระบุว่าพระเถระที่ถูกกล่าวหามีความผิดถึงขั้นอาบัติปาราชิกยิ่งไม่สามารถทำได้ เพราะตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ระบุไว้ว่า ฆราวาสไม่สามารถปรับอาบัติพระสงฆ์ได้ ขณะที่สิ่งที่ ผอ.พศ.ดำเนินการไม่ชอบมาพากล เพราะ ผอ.พศ. เป็นข้าราชการพลเรือน ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ในหมวด 6 มาตรา 82, 83 ระบุถึงการทำงานของข้าราชการพลเรือนที่ต้องรายงานผู้บังคับบัญชา ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ กำหนดให้ ผอ.พศ.เป็นเลขาธิการมหาเถร-สมาคม ขณะที่ พศ.เป็นสำนักงานเลขาธิการมหา-เถรสมาคม

...

นายสรณาเผยอีกว่า ดังนั้น การดำเนินงานของ ผอ.พศ.ต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชา นั่นคือมหาเถรสมาคม ก่อนที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษ ถือว่าผอ.พศ.ทำหน้าที่โดยส่วนตัวและมีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ การที่ ผอ.พศ. ทำแบบนี้ย่อมส่งผลต่อความเสียหายภาพรวมของคณะสงฆ์ ทั้งที่หากพิจารณากันแล้ว งบฯที่ ผอ.พศ.นำมาเป็นข้อกล่าวหา เป็นงบฯอุดหนุนจากรัฐบาล ขั้นตอนที่จะนำงบฯมาใช้ได้ พศ.จะต้องเป็นผู้นำออกมาโอนไปยังวัด เชื่อว่าพระเถระทั้ง 5 รูป ท่านไม่ทราบแน่นอนว่า พศ. จะนำงบฯมาจากส่วนใด ในทางกลับกันถือว่าเป็นความผิดพศ.ด้วย ที่ไม่อธิบายว่านำงบฯมาจากส่วนใด ทำไมถึงไม่ชี้แจงให้พระทราบก่อน เชื่อมั่นว่ากรณีทุจริตเงินทอนวัดนั้น พระสงฆ์ส่วนใหญ่ไม่ทราบเรื่องแน่นอน แต่เกิดจากการทำงานที่ขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรงของ พศ. ที่แปลงงบฯแต่ละประเภท แล้วนำมาให้วัดต่างๆ

ด้านนายบรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย เขียนข้อความเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ระบุว่า จากเหตุการณ์ยื่นฟ้องพระมหาเถระและพระเถระรวม 5 รูป ขอให้ชาวพุทธตั้งสติและศึกษาสถานการณ์ให้รอบคอบ เพราะยังเป็นเพียงข้อกล่าวหา ส่วนตัวแล้วเมื่อพิจารณาตามสถานการณ์ท่านอาจอยู่ในข่ายใช้เงินผิดประเภท ผลของการใช้เงินเห็นอยู่ว่าเป็นประโยชน์ แก่พระศาสนาในภาพรวม เช่น สร้างศาสนสถาน ส่งพระธรรมทูตไปต่างประเทศ กฎหมายจะพิจารณาอย่างไรตนไม่ทราบ แต่ที่เห็นในหน่วยงานบ้านเราพูดถึงการโยกงบฯไปใช้ในส่วนต่างๆ ทำกันเป็นล่ำเป็นสันและผ่านไปด้วยดี แต่ในพระศาสนาจะให้ปรับเป็นอาบัติปาราชิกยังไม่เห็นด้วย แต่เสนอให้ตั้งคณะพระวินัยธร (ผู้เชี่ยวชาญพระวินัย) ขึ้นเป็นคณะเต็มรูปแล้วพิจารณา ประเด็นที่ต้องเน้นคือ ท่านมีเถยจิต (จิตที่คิดจะขโมย) หรือไม่ ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความรอบคอบและความเป็นธรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ส่งสำนวนคดีเงินทอนวัดลอต 3 มีพระผู้ใหญ่ 5 รูป ที่ถูก ผอ.พศ.ร้องทุกข์กล่าวโทษ ไปให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนว่า จะพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้จากนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแล พศ.ก่อน แล้วค่อยดูว่าจะเชิญ ผอ.พศ.มาชี้แจง โดยเรื่องนี้นายกฯ ทราบเรื่องแล้ว และได้ให้สัมภาษณ์ว่าต้องเดินหน้าต่อไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่ารัฐบาลจะส่งใครไปพูดคุยกับ มส.หรือไม่เพราะโยงถึงพระผู้ใหญ่ชั้นสมเด็จ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ให้ พศ.ดำเนินการไปก่อน ตนขอหารือกับนายสุวพันธุ์ก่อนเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความศรัทธาและเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องระมัดระวัง ต้องใช้หลักฐานข้อมูลที่ถูกต้องและสมบูรณ์เพื่อให้เกิดความชัดเจน

ขณะที่ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.เผยว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประสานมาพบ พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ปปป. วันที่ 19 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ คดีเงินทอนวัดลอต 3 ที่เหลืออีก 7 วัด ที่ผ่านมาในส่วนของพยานหลักฐานต่างๆ คดีเงินทอนวัดลอต 3 พศ.และ บก.ปปป. รวบรวมพยานหลักฐานและทำงานร่วมกันมานานแล้ว