เพราะอยุธยา ไม่ได้มีแค่วัดไชยวัฒนาราม ที่แม่การะเกด ตื่นเต้นนักตื่นเต้นหนาที่จะได้เห็น ...
แต่อีกวัดที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน คือ วัดบรมพุทธาราม หรือ วัดกระเบื้องเคลือบ สร้างขึ้นในสมัยพระเพทราชา กษัตริย์รัชกาลที่ 28 ของอาณาจักรอยุธยา และเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์บ้านพลูหลวง
ในปี พ.ศ. 2231 เมื่อ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จไปประทับ ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ ทรงมีอาการประชวรใกล้สวรรคต ทรงเห็นว่าพระเพทราชาเป็นผู้ใหญ่ จึงมอบหมายให้ว่าราชการแทน ระหว่างนั้น พระเพทราชา ลวงพระอนุชาทั้งสองพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์ คือ เจ้าฟ้าน้อย และ เจ้าฟ้าอภัยทศ ว่ามีรับสั่งให้เข้าเฝ้าฯ เมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ถึงเมืองลพบุรี ก็ถูก หลวงสรศักดิ์ จับไปสำเร็จโทษ ที่วัดทราก ส่วนพระปีย์ พระราชโอรสบุญธรรมถูกผลักตกจากพระที่นั่งสุทธาสวรรค์ แล้วกุมตัวไปสำเร็จโทษ
เมื่อสมเด็จพระนารายณ์สมหาราช สวรรคตแล้ว ได้สั่งให้ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ เข้าพบ เมื่อมาถึงศาลาลูกขุนก็ถูกกุมตัวไปประหารชีวิต เมื่อจัดการบ้านเมืองสงบแล้ว จึงเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มาประดิษฐานที่พระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ แล้วรับราชาภิเษก ณ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท เมื่อปราบดาภิเษกนั้น สมเด็จพระเพทราชา มีพระชนมายุได้ 51 พรรษา
...
สำหรับ วัดบรมพุทธาราม พระเพทราชา โปรดให้สร้างขึ้นในบริเวณย่านป่าตอง ภายในเขตกำแพงเมือง ระหว่างประตูไชยกับคลองฉะไกรน้อย ปัจจุบันอยู่ในอาณาเขตของราชภัฏพระนครศรีอยุธยา อันเป็นนิวาสสถาน(บ้าน)เดิมของพระองค์ท่าน
ดังที่ พระราชพงศาวดารกล่าวไว้ว่า
“…สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระราชดำริว่า ที่บ้านหลวง ตำบลป่าตองนั้น เป็นที่มงคลสิริราชฐานอันประเสริฐ สมควรจะสร้างเป็นพระอาราม มีพระอุโบสถวิหารการเปรียญ พระเจดีย์ฐานกำแพงแก้วและกุฏิสงฆ์ ศาลาสะพาน เว็จกุฏิ พร้อมแล้วทรงพระกรุณาให้หมื่นจันทรา ช่างเคลือบทำกระเบื้องเคลือบสีเหลืองมุงหลังคาพระอุโบสถวิหารทั้งปวงและการสร้างพระอารามนั้นสามปีเศษจึงสำเร็จในปีขาล อัฐศก แล้วพระราชทานนามบัญญัติพระอารามชื่อวัดพระบรมพุทธาราม ตั้งเจ้าอธิการชื่อพระญาณสมโพธิราชา คณะคามวาสีครองพระอาราม และทรงพระกรุณาให้มีการฉลอง และมีมหรสพ ๓ วัน และทรงถวายไทยทานแก่พระสงฆ์เป็นอันมาก และพระราชทานเลกข้าพระไว้อุปฐากพระอารามก็มากแล้วถวายพระกัลปนาขึ้นแก่พระอารามตามธรรมเนียม”
อย่างไรก็ตาม วัดบรมพุทธาราม นี้ ยังเปรียบเสมือนวัดประจำราชวงศ์บ้านพลูหลวง เพราะ สมเด็จพระเพทราชา เป็นพระมหากษัตริย์ต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวง นั่นเอง.