ย้อนกลับไปเมื่อ 90 กว่าปีก่อน "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" ถือกำเนิดเกิดมาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2463 ครอบครัวของ รองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) ต้นตระกูลติณสูลานนท์ กับนางวินิจทัณฑกรรม (ออด ติณสูลานนท์) มีพี่น้องทั้งสิ้น 8 คน โดย พลเอกเปรม เป็นคนสุดท้อง อาศัยอยู่ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ใจกลางเมืองสงขลา ซึ่งปัจจุบันเปิดเป็น "พิพิธภัณฑ์ธำมะรงค์" จังหวัดสงขลา นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้  

พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในวัยเด็ก ศึกษาชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ หมายเลขประจำตัว 167 ก่อนจะเข้าศึกษาต่อ ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ในปี พ.ศ.2480 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้า (โรงเรียนนี้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2477 ต่อมาคือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า)

ย่างเข้าปีที่ 98 ของชีวิต จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สู่ ผู้มีบารมีทุกยุคสมัย ล่วงเลยมาจวบจนวันนี้ สุขภาพจิตใจยังเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ส่วนสภาพร่างกายไม่ต้องพูดถึง "แข็งแรง ปึ๋งปั๋ง" เล่นเอาหนุ่มรุ่นๆสมัยนี้สู้ไม่ได้กันเลยทีเดียว ไทยรัฐออนไลน์ พาไปเปิดเคล็ดลับ 9 ข้อ ที่มาของร่างกายกำยำแข็งแรง ซึ่งทางพลเอกเปรม ให้ข้อมูลผ่าน นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นชาวอำเภอระโนด จ.สงขลา ถึงเรื่องราวการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงมาจนทุกวันนี้ ..... "ผมชอบออกกำลังกาย และเล่นกีฬาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนอยู่ จ.สงขลา"

...

1.เล่นบาสเกตบอลเก่ง เตะฟุตบอลเท้าเปล่า 

ป๋าเปรม รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล ตะกร้อ แต่จะเล่นบาสเกตบอลเก่งสุด เคยเล่นฟุตบอลเท้าเปล่า เตะตะกร้อลอดบ่วง เรียกได้ว่ากีฬาทุกชนิดคือสิ่งที่ป๋าเปรมให้ความสำคัญในการร่วมเล่นมาตั้งแต่เล็กจนโต 

2.ออกกำลังกายด้วยการเดิน 

เมื่อเริ่มอายุมากขึ้น การออกกำลังกายที่ใช้พลังมากๆ กลายเป็นเรื่องยากไปโดยปริยาย แต่สิ่งที่เน้นทำสม่ำเสมอคือการเดินในสนามหญ้ารอบๆ บ้าน เพื่อเป็นการเคลื่อนไหวร่างกาย 

3.นอนตอนสี่ทุ่ม ตื่นตอนหกโมงเช้า

การเข้านอนเป็นเวลา จะทำให้ร่างกายเราปรับสภาพได้ดีขึ้น ป๋าเปรมก็เช่นกัน ท่านจะยึดหลัก เข้านอนตอน 4 ทุ่ม และตื่นอีกทีตอน 6 โมงเช้า ป๋าเปรมยังบอกด้วยว่า นอนและตื่นเช้ามานานมากแล้ว

4.ทานง่าย อาหารไทยจานเดียวก็อยู่ท้อง

ทานมื้อเช้าตอน 7 โมงเช้า จากนั้นทานมื้อเที่ยงตอน 12.00 น. และมื้อเย็นตอน 19.00 น. อาหารถูกปากส่วนมากเป็นอาหารไทย ปลา แกส้มใต้ ผักต้ม อาหารใต้ หรืออาหารจานเดียว เช่น ราดหน้า ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยว น้ำพริกปลาทู ส่วนของว่างจะเป็น คุกกี้ ลูกหยี ข้าวตังเสวย อาหารพื้นเมืองสงขลา 

5.ชอบอ่านหนังสือ 

ป๋าเปรมชอบติดตามข่าวสารบ้านเมือง และอ่านหนังสือพิมพ์หลายยี่ห้อ หลายฉบับต่อวัน เพื่อเพิ่มเติมความรู้ 

6.ดูทีวีรายการกีฬา 

เพราะเป็นคนชอบออกกำลังกายเล่นกีฬา ดังนั้นรายการทีวีในดวงใจ มักจะเปิดแต่ช่องที่เป็นการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาต่างๆ โดยเฉพาะการแข่งขันกอล์ฟ สนุกเกอร์ เทนนิส ส่วนฟุตบอลก็ดูบ้าง

...

7.ร้องเพลงคือกิจกรรมยามว่าง 

ป๋าเปรมชอบใช้เวลาอยู่ในห้องรับแขกของบ้าน ซึ่งมีเครื่องดนตรีเก่าอย่างเปียโนวางไว้ โดยจะใช้เวลาเล่นเปียโน ร้องเพลงนานสุดครั้งละ 1 ชม.

8.เรียบง่าย สมถะ

ป๋าเปรม เป็นคนไม่หรูหรา ดำเนินชีวิตเรียบง่าย มีความอดทนสูง และ ทำงานอย่างทุ่มเท อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ใช่คนยึดติดเจ้าคิดเจ้าแค้น  วางตัวสบายๆ ชอบอยู่กับธรรมชาติ 

9.ลมหายใจเพื่อชาติบ้านเมือง

ตลอดชีวิตการ "รับใช้ชาติ" สถาบันพระมหากษัตริย์ คือ สิ่งที่เขาเทิดทูนและปกป้องมาตลอด เป็นแบบอย่างให้นายทหารรุ่นน้องหลายคนเอาเป็นแบบอย่าง เขาพูดอยู่เสมอถึงการ "ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน" และความ "จงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์"

*** ที่ผ่านมา สวนดุสิตโพล โดยมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น สำหรับบุคคลที่ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์ อันดับ 1 คือ "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ