"บิ๊กแอ๊ว" พลเอกอัครเดช ศศิประภา อดีตรองปลัดกลาโหม หรือที่รู้จักกันดีว่า "เสธ.แอ๊ว" เสียชีวิตแล้ว ในวัย 77 ปี หลังจากที่หลังจากพักรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพมา 1 สัปดาห์ ก่อนจากไปอย่างสงบ คาดอาจเกิดจากไตวาย
โดยมีกำหนด พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 28 มีนาคม นี้ ที่วัดโสมนัสฯ ศาลา 9 สวดพระอภิธรรม 7 วัน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 เม.ย. ส่วนคนใกล้ชิด ระบุว่า ปกติ เสธ.แอ๊ว ไม่มีโรคภัยอะไร แต่มีปัญหาที่แขนขา เช่นเดียวกับบิ๊กอ๊อด พบเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา พี่ชาย ที่ยืนนานๆ ไม่ได้ และไปหาหมอบ่อยๆ อีกทั้งเพราะ ช่วงวัยหนุ่ม เสธ.แอ๊ว บอกว่า ใช้ร่างกายเปลือง ก็ต้องมาดูแลตอนนี้
ล่าสุด เมื่อ 8 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมา เสธ.แอ๊วมาอวยพรวันเกิด 81 ปี บิ๊กอ๊อด พี่ชาย ที่บ้านถนนสุโขทัย บิ๊กอ๊อด ยังบอก ห่วง เสธ.แอ๊ว ถ้าเป็นอะไรหน่อย ก็ให้ไปหาหมอๆ จนล่าสุด เกิดอาการปวดท้อง และไปตรวจที่ รพ.กรุงเทพ พบว่ามีปัญหาเรื่องระบบน้ำในร่างกาย ที่อาจเกิดจากไต จนจากไปอย่างสงบด้วยการนอนหลับไปในวันนี้
เสธ.แอ๊ว เป็นนายทหารสายวงศ์เทวัญเพราะเป็นลูกบิ๊กทหารและเติบโตจาก ร.1พัน3รอ. เป็นนายทหารที่ใจกว้าง มีลูกน้อง เพื่อนฝูงมากมาย เป็นที่พึ่งของเพื่อนฝูง และลูกน้อง เป็นนายทหาร สไตล์ "เสธ." ที่มีชื่อในวงการคนมีสีระดับตำนานเลยทีเดียว
ที่ผ่านมามักถูกกล่าวหาว่าเป็นทหารมาเฟีย แต่ เสธ.แอ๊วปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่เคยใช้อำนาจของตนเองในการไปเป็นมาเฟียหรือหาผลประโยชน์ แต่เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีเพื่อนฝูงพี่น้องมากมาย ที่เสธ.แอ๊ว ช่วยเหลือและดูแล เพราะเป็นคนใจกว้างใจนักเลง แต่เมื่อเกษียณราชการไป ก็ค่อยๆ ลดบทบาท และมี เสธ. มาเฟีย รุ่นน้อง มาแทนที่ เช่น เสธ.ไอซ์ พลเอกไตรรงค์ อินทรทัต เสธ.หิมาลัย พันโทหิมาลัย ผิวพรรณ และเสธ.นัส ร้อยเอกธรรมนัส พรมเผ่า ถือเป็นการปิดตำนานนายทหารระดับบิ๊กที่มีชื่อเสียงระดับตำนานของทหารไทยเลยทีเดียว
...
ประวัติ "พล.อ.อัครเดช ศศิประภา" ชื่อเล่น แอ๊ว เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2483 เป็นบุตรของ พล.ท.อรรถ และนางจำรูญ ศศิประภา (เสียชีวิต) การศึกษา มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จปร. รุ่น 11 และโรงเรียนเสนาธิการ ทหารบก ชุดที่ 50 รับราชการในตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสังกัดกองพลที่ 1 ร.อ., ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3, นายทหารฝ่ายอำนวยการกองพัน ทหารราบที่ 3, รองผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3, ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 ประจำศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี เมษายน 2524, รองเสนาธิการจังหวัดทหารบกเพชรบุรี ตุลาคม 2524, ผู้บังคับกองพันสารวัตรทหารบกที่ 1 มณฑลทหารบกที่1 กทม. ปี 2525, รองเสนาธิการทหารบกที่ 2 ปราจีนบุรี ปี 2527
เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 2, ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายกาญจนบุรี ปี 2528, เสนาธิการ กองพลทหารราบที่ 9 ปี 2529, รองผู้บัญชาการ กองพลทหารราบที่ 9 กาญจนบุรี ปี 2530, นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา สำนักงานผู้บังคับบัญชากองทัพบก ปี 2531, ประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปี 2532 และปลายปีเป็น เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 1, ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ปี 2534, ประจำกองบัญชาการทหารสูงสุดในปีเดียวกัน
หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปี 2538, ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก 1 ตุลาคม 2539, จเรทหารทั่วไป 1 ตุลาคม 2540, รองปลัดกระทรวงกลาโหม 1 ตุลาคม 2541, รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด 1 ตุลาคม 2543 จนเกษียณอายุราชการ 1 ตุลาคม 2544