สถ.ประกาศกำหนดส่งเอกสาร ผลงานและวิสัยทัศน์ในการสอบสายงานผู้บริหารท้องถิ่น กำชับหนักหากทุจริตต้องโดนลงโทษขั้นสูงสุด
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 61 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า คณะอนุกรรมการสรรหาข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารได้มีประกาศกำหนดให้มีการดำเนินการสอบ ในวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2561 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จึงขอให้ผู้ที่จะเข้ารับการสรรหาเตรียมตัวให้พร้อม โดยให้ไปถึงสถานที่สรรหา (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) ก่อนเวลาสอบไม่น้อยกว่า 30 นาที โดยแต่งเครื่องแบบสีกากี และนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อไว้แสดงตนก่อนเข้าสอบ และให้นำเอกสารประกอบการสรรหา ได้แก่ ใบสมัครที่พิมพ์จากระบบการรับสมัครสรรหา โดยให้ติดรูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ระบุ เลขบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาบัตรประวัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหา หนังสือรับรองจากนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอนุญาตให้สมัครสรรหา แบบสรุปคุณสมบัติ สำเนาหนังสือรับรองการนำวุฒิปริญญาโท (ถ้ามี) สำเนาคุณวุฒิการศึกษา โดยบรรจุใส่ในซองสีน้ำตาล (รายละเอียดตามหนังสือสำนักงาน ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. ที่ มท 0809.2/ว43 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2561) มอบให้เจ้าหน้าที่ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการสรรหาฯ ได้กำหนดวันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าทดสอบภาคความเหมาะสม ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ซึ่งผู้มีสิทธิเข้ารับการทดสอบฯ จะต้องส่งผลงานที่ประสบความสำเร็จและวิสัยทัศน์ภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ทางไปรษณีย์ โดยจะถือเอาวันประทับตราลงรับของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเป็นสำคัญ
นายสุทธิพงษ์ กล่าวในตอนท้ายว่า คณะอนุกรรมการสรรหาข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร จะดำเนินการสรรหาฯ ด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม ดังนั้น หากผู้สมัครเข้ารับการสรรหารายใดทุจริต หรือมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต หรือพยายามกระทำการทุจริตในการสอบ จะถูกปรับให้ตกในการสอบครั้งนี้ และจะถูกตัดสิทธิในการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารตลอดไป โดยกรมฯ จะดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ผู้ทุจริต และจะแจ้งต้นสังกัดเพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงด้วย หรือหากมีบุคคลกลุ่มใดหรือผู้ใดแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ผู้สมัครได้ หรือมีพฤติกรรมในทำนองเดียวกันนี้ ก็ขอให้อย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด และแจ้งมาที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือแจ้งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือท้องถิ่นจังหวัดทราบได้ทันทีด้วย
...