หมวดโค้ก หลบสื่อ เข้าให้ปากคำกรณีสำนวนหวย 30 ล้าน ที่คำชะโนด หลุดไปถึงมือ ป้าติ้น ด้าน ป้าดา ให้ปากคำเพิ่มเติมกองปราบ ยันไม่กลัว อีกไม่นานจะได้รู้ความจริง ...
วันที่ 19 มีนาคม ร้อยตำรวจโทสมประสงค์ ปสาทรัตน์ อดีตพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลประเวศ เข้าให้ปากคำกับ พันตำรวจเอกธวัช วงศ์สง่า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณี ร้อยตำรวจโทสมประสงค์ นำเอกสารสำนวนคดีไปมอบให้กับนางเรวดี หาแก้ว หรือ ป้าติ้น ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียทางคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2559 ก่อนนำไปขึ้นเบิกความในชั้นศาล ในฐานะพยาน ให้กับนางเรวดี จนศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้อง ทำให้นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ถูกจำคุกก่อนประกันตัวออกมาสู้คดี
พันตำรวจเอกธวัช ระบุว่า จะเร่งดำเนินการสอบปากคำ ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน เพื่อจะพิจารณาว่าเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ หากพบว่าผิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล 4 มีขั้นตอนในการพิจารณาโทษทางวินัยอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้หมวดโค้กยังคงเป็นข้าราชการตำรวจอยู่ ยืนยันว่าจะไม่ช่วยเหลือกันอย่างเด็ดขาด ซึ่งขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 4-5 ปาก ในเรื่องของเอกสาร ว่าอยู่ในความครอบครองของใคร และอยู่กับนางเรวดีได้อย่างไร ซึ่งตำรวจไม่มีอำนาจที่จะไปเอาสำนวนให้กับคู่กรณี
ส่วนการสอบปากคำวันนี้ จะเน้นไปที่การสอบ ในเรื่องของการนำสำนวนไปเบิกความในชั้นศาล ของนางเรวดี รวมถึงความสนิทสนมของหมวดโค้กกับนางเรวดี และประเด็นผลประโยชน์ ขณะที่การสอบสวนทางวินัยตอนนี้ มีหมวดโค้กคนเดียวที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีการพาดพิงไปถึงบุคคลอื่น ก็จะมีการสอบเพิ่มเติมต่อไป
รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ยังปฏิเสธกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาบอกกับไทยรัฐทีวีว่า มีตำรวจพยายามช่วยเหลือหมวดโค้กให้พ้นผิด ซึ่งไม่มีใครสามารถไปบังคับใครให้ให้ปากคำอย่างไรได้ ซึ่งหากให้การไม่ตรงก็มีความผิดฐานให้การเท็จ อีกทั้งคดีนี้เป็นคดีที่สื่อมวลชนและประชาชนจับตามองให้ความสนใจ คงไม่มีใครอยากเอาตัวมาแลกกับเรื่องแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวไม่เคยรู้จักหรือสนิทสนมกับหมวดโค้ก และตำรวจที่เป็นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ไม่เคยมีความคิดที่จะช่วยเหลืออย่างแน่นอน
...
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า การสอบปากคำหมวดโค้กวันนี้ พนักงานสอบสวนจะสอบถามประเด็นตั้งแต่การรับแจ้งความดำเนินคดีว่ารับแจ้งความ ตั้งแต่วันที่เท่าไหร่และมีใครที่เกี่ยวข้องในคดีบ้าง รวมถึงขั้นตอนของการที่นางเรวดี ไปร้องเรียนกับกองปราบตัวหมวดโค้กทราบเรื่องหรือไม่ ทั้งเอกสารที่ป้าติ้นอ้างว่า หมวดโค้กฝากไปให้กับตำรวจกองปราบ รวมถึงการที่นางเรวดี มีสำนวนการสอบสวน รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหมวดโค้กและป้าติ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นการรวบรวมประเด็นภายหลังสอบปากคำพยานที่เชิญตัวมาสอบก่อนหน้านี้
โดยก่อนหน้าที่ ร้อยตำรวจโทสมประสงค์ จะเดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่งมีสื่อมวลชนรอดักสัมภาษณ์อยู่ด้านหน้ากองบังคับการตำรวจนครบาล 4 แต่เมื่อเดินทางมาถึงปรากฏว่า ร้อยตำรวจโทสมประสงค์ไม่ยอมเข้ามาให้ปากคำ จนพันตำรวจเอกธวัช ออกมาบอกกับสื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าวว่า เจ้าตัวขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำ โดยอ้างว่าติดภารกิจราชการ แต่สื่อมวลชนที่ไปเฝ้ารอทำข่าวเห็นว่า หากนำเสนอไปเช่นนี้ จะเหมือนกับเป็นการช่วยเหลือตัวร้อยตำรวจโทสมประสงค์ เพราะก่อนหน้านี้พยานที่เข้าให้ปากคำบางคนก็ติดภารกิจและบางคนก็ไม่สะดวกที่จะเดินทางมา แต่ก็ถูกพนักงานสอบสวนเร่งเข้ามาให้ปากคำในเวลาที่กำหนด รวมทั้งตัวร้อยตำรวจโทสมประสงค์ มีข้อครหาว่าเป็นเด็กหน้าห้องผู้บังคับการ
ซึ่งกรณีนี้หากทำตามที่ร้อยตำรวจโทสมประสงค์ขอ อาจถูกมองว่ามีการช่วยเหลือกัน จนสื่อมวลชนกดดัน พันตำรวจเอกธวัช ให้นำร้อยตำรวจโทสมประสงค์ยอมเข้าให้ปากคำ แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามสัมภาษณ์ในทุกกรณี ซึ่งระหว่างที่นักข่าวรอด้านหน้าห้องสอบสวนหลายสิบคน ปรากฏว่าหมวดโค้ก เข้าไปอยู่ด้านในห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างความประหลาดใจให้กับนักข่าวที่รอทำข่าว โดยตำรวจช่วยเหลือให้หมวดโค้ก เข้าทางพิเศษ เพื่อที่จะไม่ต้องการให้เจอนักข่าวที่มารอติดตามทำข่าวนั่นเอง
นอกจากนั้น วันเดียวกันนี้ นางจรูญ เฮ็ก หรือ ป้าติ๋ว เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปราม หลังปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ยักยอกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้าน บาท ตามที่นางเรวดี หรือป้าติ้น กล่าวหาไปก่อนหน้านี้
ซึ่งป้าติ๋ว ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ก่อนเดินทางกลับว่า ในวันนี้มายืนยันว่าตนไม่ได้ยักยอกลอตเตอรี่ 30 ล้านไป ตนถูกคนกุเรื่องขึ้นมา สภาพจิตใจตอนนี้ก็ปกติ เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง จึงไม่ได้กลัวอะไร และอีกไม่นาน ก็ได้รู้ว่าความจริงคืออะไร
นอกจากนี้ ส่วนตัวไม่เคยมีปัญหากับเรวดี หรือป้าติ้น มาก่อน และเคยเจอกันแค่ไม่ถึง 20 ครั้ง นอกจากนี้ ตนยังไม่เคยมีพฤติกรรมขอยืมเงินคู่กรณีเลยสักครั้ง มีแต่ฝั่งนั้นเป็นคนขอยืม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะบอกกับคู่กรณีหรือไม่ ป้าติ๋ว ระบุว่า ไม่อยากจะบอกอะไร เพราะฝั่งนั้นเชื่อมั่นในตัวเองมากที่สุดอยู่แล้ว.