กลุ่มชายฉกรรจ์ จับเจ้าของกิจการครีม ทำธุรกิจนายหน้าขายที่ดิน นำเรียกค่าไถ่ 5 ล้านบาท ออกอุบายทำทีขอซื้อ ก่อนพาตัวซุกเซฟเฮาส์เอาปืนปลอมจ่อหัว บังคับรูดทรัพย์กดเงิน จังหวะดีหนีรอด แจ้งกองปราบ

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ภายใต้การนำทีมโดย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. ได้รับการประสานจากสถานีตำรวจ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ผนึกกำลังไล่ล่า กลุ่มชายฉกรรจ์ จับ 2 เหยื่อผู้เสียหายเรียกค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 5 ล้านบาท โชคดีที่เหยื่อสามารถหนีรอดออกมาให้ข้อมูลตำรวจ กระทั่งต่อมา พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้รับมอบหมายให้ทำการสืบหาข่าว 

"เบาะแสเบื้องต้นพบว่า หนึ่งในกลุ่มคนร้าย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเทา ติดแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน ทล 7785 กรุงเทพฯ เป็นยานพาหนะ และหลบหนีไปอยู่ที่ร่วมกมลอพาร์ตเมนต์ ซอยลาดปลาเค้า 53 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางไปที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าว เมื่อไปถึงพบว่า รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวกำลังออกจากอพาร์ตเมนต์ ตำรวจกองปราบ ขับรถสะกดรอยตาม กระทั่งถึงบริเวณริมถนนภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร มิตซู ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้เรียกให้หยุดรถ ตรวจค้น พบ ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 0.35 กรัม ธนบัตรรัฐบาลไทยปลอม ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 50 ฉบับ อยู่ในช่องเก็บของด้านหน้าข้างซ้ายภายในรถ, พบวิทยุสื่อสาร ตามของกลางรายการที่ 7 อยู่ในรถยนต์ของกลาง" พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. 

...

จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายกำปั่น ทอนเกาะ อายุ 51 ปี 2.นายกฤษฎา หรือต้อม ประวิเศษ อายุ 47 ปี
3.นายสมชาย หรือปิ๊ก มีสัตย์ อายุ 37 ปี ทั้งนี้ผู้ต้องหา ยังมียาเสพติดและธนบัตรรัฐบาลไทยปลอม ซุกซ่อนอยู่ที่ห้องพักเลขที่ ‭16/13033‬ ตึก 130 หมู่บ้านเอื้ออาทร มิตซู ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นห้องพักของนายกำปั่น พบยาบ้า จำนวน 2 เม็ด, ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 0.4 กรัม และธนบัตรรัฐบาลไทยปลอม จำนวน 560 ฉบับ 

ผู้ต้องหาให้การตรงกันว่า "นายกำปั่น" เป็นผู้ชักชวนให้มาร่วมกันอุ้มผู้เสียหาย เพื่อเรียกค่าไถ่ จำนวน 5 ล้านบาท  โดย เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2561 ได้มีการล่อลวงนัดหมายกับผู้เสียหายเพื่อติดต่อซื้อขายที่ดินกันที่จังหวัดชลบุรี เนื่องจากผู้เสียหายลงข้อมูลไว้ในโซเชียล โดยนายกำปั่น ได้เช่าบ้านไว้ที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ทำทีเป็นสำนักงานหลอกให้ผู้เสียหายมาติดต่อซื้อขายที่ดินกันที่นี่ จากนั้นนายกำปั่นและพวกได้รวมตัวกันเดินทางมาโดยรถแท็กซี่เมื่อมาถึงบ้านที่ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี นายกำปั่น สั่งให้ทั้งหมดใส่หน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้า

 พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. บอกว่า คนร้ายได้วางแผนทำงานเป็นทีม สร้างบทละครหลอกลวงเหยื่อเคราะห์ร้ายทั้ง 2 เนื่องจากทราบว่าเป็นเจ้าของกิจการขายครีมและนายหน้าขายที่ดิน ประสบโอกาสเหมาะ 1 ในคนร้าย ได้ใช้อาวุธปืนปลอม จ่อบริเวณศีรษะ 1 เหยื่อ ก่อนลงมือ เจรจาเรื่องค่าไถ่ นำตัวทั้ง 2  ขึ้นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูของผู้เสียหาย บังคับเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มจำนวน 1 แสนบาท พร้อมทรัพย์สินมีค่าอีกหลายรายการ ก่อนที่เหยื่อจะไหวตัวทัน  ออกอุบาย ขอเข้าห้องน้ำ กลุ่มผู้ต้องหาจึงจอดแวะพักในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต่อมาทั้ง 2 ได้วิ่งหนีสุดชีวิตพร้อมตะโกนร้องให้คนช่วย กลุ่มคนร้ายจึงจอดรถทิ้งไว้ก่อนพากันหลบหนี 

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,ร่วมกันมี (ธนบัตรรัฐบาลไทย) ไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม และร่วมกันมีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ผู้ต้องหาที่ 3 รับว่า “มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองผิดกฎหมาย” ตามของกลางที่ตรวจค้นพบในขณะถูกจับกุมภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส

...

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาที่ 1 รับว่า “มี (ธนบัตรรัฐบาลไทย) ไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม” และ ผู้ต้องหาที่ 2 รับว่า “มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ตามของกลางที่ตรวจค้นพบในขณะตรวจค้นภายในห้องพักเลขที่ ‭16/13033‬ ตึก 130 หมู่บ้านเอื้ออาทร มิตซู

...