ทนายพาคุณป้าทุบรถมอบตัว สน.ประเวศ หลังถูกแจ้งข้อหาหนัก ทนายอนันต์ชัย ระบุไม่ได้ทำผิดข้อพกพาอาวุธในที่สาธารณะ เพราะขวานไม่ใช่อาวุธ และไปทำร้ายใครจึงไม่เข้าองค์ประกอบ ด้านคุณป้า ลั่น วันนี้มาเพื่อบิ๊กคลีนนิ่ง กทม.!
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี และ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี 2 พี่น้องก่อเหตุทุบรถกระบะนิสสัน นาวารา สีขาว ทะเบียน ฎค 9297 กรุงเทพมหานคร ของ น.ส.รชนิกร เลิศวาสนา อายุ 37 ปี ที่เอามาจอดขึ้นเบรกมือขวางทางเข้าออกบ้านพักเลขที่ 37/208 หมู่บ้านเสรีวิลล่า ซอยศรีนครินทร์ 55 แยก 2 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ได้เข้ามามอบตัว ที่ สน.ประเวศ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของ น.ส.รัตนฉัตร และ น.ส.ราณี กล่าวว่า ได้พาคุณป้าเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหาคือ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากใช้ขวานทุบรถกระบะที่จอดขวางทางเข้า-ออกบ้านและเจ้าของรถกระบะได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่
...
ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า คุณป้าได้มีข้อพิพาทกับเขตและทางตลาด ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี โดยคุณป้าถือคำสั่งคุ้มครองของศาลปกครองอยู่ เจ้าของตลาดต้องดูแลทางเข้าออกบ้านคุณป้า เพื่อไม่ให้ก่อความเดือดร้อน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น คุณป้าได้ทำทุกวิถีทาง ทั้งบีบแตร แจ้งตำรวจ แล้ว แต่เจ้าของรถยังไม่มาขยับรถ จึงได้กระทำในสิ่งที่เห็นไป วันนี้ จึงแจ้งความกลับของหาก่อความเดือดร้อน
ทนายอนันต์ชัย ชี้แจงอีกว่า ข้อหาพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต นั้น ตามกฎหมายตามมาตรา 1 (5) ระบุว่า หมายถึงอาวุธโดยสภาพ หรือ ไม่โดยสภาพ แต่ซึ่งได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกาย.. แบบนี้เข้าใจหรือไม่ ยกตัวอย่าง คุณป้าเอาขวานมาทุบรถ แต่ไม่ได้เอาขวานไปทำร้ายร่างกายเจ้าของรถ เมื่อไม่ได้ทำร้ายคนนั้น ถือว่าขาดองค์ประกอบความผิด ข้อหาพกพาอาวุธ แต่เขากลับมาแจ้งความในข้อหานี้ ซึ่งถือเป็นการแจ้งความอันเป็นเท็จเพื่อทำให้คุณป้าได้รับโทษหนักขึ้น ข้อหานี้ได้บอกคุณป้าแล้ว คุณป้าขอเวลาตัดสินใจ 7 วัน ว่าจะแจ้งเอาผิด ในข้อหาความอันเป็นเท็จกับคู่กรณีหรือไม่ เพราะแจ้งความเกินกว่าความเป็นจริง แม้จะถือขวาน แต่ไม่ได้ทำร้ายใคร ก็ถือว่าไม่ใช่อาวุธ
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ทางเขตกลับมีการส่งหนังสือให้กับเจ้าของตลาดทั้ง 5 แห่ง ให้มายื่นหนังสือขอสร้างตลาดให้ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้ไม่เข้ากรณีประกาศหมู่บ้านจัดสรร ปี 2543 แต่เข้ากับเนื้อหาประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 2486 ที่ระบุว่าตรงไหนเป็นหมู่บ้านชัดเจน ดังนั้น หากจะสร้างตลาดต้องให้คนที่ขออนุญาตจัดสรรไปแก้ผังก่อน ด้วยเหตุนี้ จึงอยากจะเตือนเขตว่า หากตลาดยังเปิดในบริเวณนี้ คุณป้าจะรื้อคดีทั้งหมด ไม่ว่าคนเก่าหรือไม่ ในเมื่อตั้งตลาดตรงนี้ไม่ได้ ขอว่าอย่าดันทุรัง อย่าทำให้แม่ค้าพ่อค้าเข้าใจผิดว่าสามารถสร้างตลาดได้
...
ด้าน น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ คุณป้าที่ถือขวาน กล่าวว่า ป้าไม่ทราบว่าในแง่กฎหมายขวานเป็นอาวุธร้ายแรง แต่ป้ารักษาสิทธิ์ ป้าไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ไม่เคยโกรธแค้นพ่อค้าแม่ค้า อยากถามว่าหากบ้านของคุณมีรถเข้าออกตลอดเวลาคุณจะทำอย่างไร วันนั้นเราเหลือทนจริงๆ เพราะเราทำทุกวิถีทางแล้วจริงๆ เขาก็ไม่ยอมเลื่อนรถ และอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่รัฐอย่าชักจูงให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย เพียงเพราะผลประโยชน์ของคุณ
“ที่เราไม่ได้ยกเครื่องมือ (ขวาน และ เสียม) ไปตีใคร ก็ถือว่าเราแสดงเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว แต่เราต้องการความชอบธรรมที่คุณมาปิดกั้นทางเข้าออกเรา ตอนที่เกิดเหตุ เกิดที่หมู่บ้านเสรีวิลล่า ซึ่งได้รับความคุ้มครอง (กับทางเขตได้เข้ามาคุยหรือยัง) ไม่มีเลย นอกจากงานบิ๊กคลีนนิ่งเดย์เท่านั้น ซึ่ง 10 ปีไม่เคยมา เรามาวันนี้เพราะเราต้องการให้เกิดบิ๊กคลีนนิ่ง กทม. เพื่อให้เกิดความสงบสุข เหมือนกับหมู่บ้านเสรีวิลล่า ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้” น.ส.รัตนฉัตร กล่าว
...