พี่น้องตระกูล “แสงหยกตระการ” เข้าให้การศาล หลังร้องศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม เอาผิดผู้ว่าฯ กทม. และ ผอ.เขตประเวศ กรณีปล่อยให้มีตลาดล้อมบ้านพักหรูในหมู่บ้านเสรีวิลล่า สวนหลวง ร.9 สร้างความเดือดร้อนคนในหมู่บ้าน ฝั่ง “พล.ต.อ.อัศวิน” ชี้แจงศาล มารับตำแหน่งปี 59 เมื่อเกิดเหตุทุบรถลงมาตรวจสอบ พร้อมสั่งให้ตลาดหยุดขาย รอผลกรรมการสอบวันที่ 5 มี.ค.นี้ ก่อนส่งให้ศาลทราบวันที่ 6 มี.ค.ด้วย
จากกรณี น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี และ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี สองพี่น้องก่อเหตุทุบรถกระบะนิสสัน นาวารา สีขาว ทะเบียน ฎค 9297 กรุงเทพมหานคร ของ น.ส.รชนิกร เลิศวาสนา อายุ 37 ปี หลังจอดรถแล้วดึงเบรกมือไว้ ทำให้ขวางทางเข้าออก บ้านเลขที่ 37/208 หมู่บ้านเสรีวิลล่า ซอยศรีนครินทร์ 55 แยก 2 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ก่อน 2 สาวพี่น้องเจ้าของบ้านออกมาโวยเข้าออกบ้านไม่ได้ จึงคว้าขวานมาทุบรถ ต่อมา น.ส. รชนิกร เจ้าของรถกระบะแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สน.ประเวศ เอาผิด มือทุบ ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นกระแสสังคม มีการตีแผ่เบื้องหลังสาเหตุที่แจ้งจริงมาจากการสร้างตลาดติดกับบ้านของตระกูล “แสงหยกตระการ” สร้างความเดือดร้อนมานานนับ 10 ปี มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 มี.ค. ที่ศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม นัดไต่สวนคดีที่ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ อายุ 65 ปี (พี่สาวของ น.ส.รัตนฉัตรและน.ส.ราณี) กับพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองผู้ว่าฯ กทม.กับพวกรวม 4 คน พร้อมด้วยนายสุกิจ นามวรกานต์ กับพวก ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้าตลาดสดรอบๆบริเวณบ้านของ น.ส.บุญศรี รวม 7 คน ในฐานะผู้ร้องสอด ว่า กทม.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการปล่อยปละละเลยให้มีการก่อสร้างตลาด และปล่อยปละการควบคุมการประกอบกิจการตลาดในหมู่บ้านจัดสรร เป็นเหตุให้ น.ส.บุญศรีกับพวกได้รับความเดือดร้อน รำคาญ ซึ่งในการไต่สวนครั้งนี้ น.ส.บุญศรีเดินทางมาพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเสรีวิลล่า สวนหลวง ร.9 ที่ได้รับผลกระทบจากตลาด ส่วนฝั่งของเจ้าหน้าที่ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เดินทางมาด้วยตัวเอง พร้อมกับนายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผอ.เขตประเวศ ใช้เวลาไต่สวนนานกว่า 3 ชั่วโมง
...
ด้าน น.ส.บุญศรีเผยว่า วันนี้มาชี้แจงข้อเท็จจริงให้ศาลทราบ นอกเหนือจากสิ่งที่ศาลได้ทราบจากสื่อมวลชน จากเหตุการณ์ทุบรถเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว บรรยากาศรอบบ้านดีขึ้น แต่การที่ผู้ว่าฯ กทม.และ ผอ.เขตประเวศ ได้ชี้นำให้เจ้าของตลาดดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง เพื่อกลับมาเปิดตลาดใหม่ในขณะที่คดียังไม่มีข้อยุตินั้น ตนยืนกรานว่าไม่เห็นด้วยและไม่ยินยอมให้มีตลาดเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เพราะตามสัญญาในการจัดซื้อที่ดินระบุว่า เป็นการจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย ไม่มีการประกอบกิจการพาณิชย์
“ศาลพยายามหาข้อเท็จจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. รับว่าจะไม่มีการทำตลาดในช่วงนี้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ถือว่าพอใจในระดับหนึ่งในฐานะประชาชน โดยศาลระบุว่าจะเร่งพิจารณาคดีนี้ให้เร็วที่สุด เพราะทราบดีว่าเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ส่วนกรณีการทุบรถ ยืนยันจะไปตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ วันที่ 5 มี.ค.นี้ จะให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงว่า เป็นเหตุบันดาลโทสะ และสุดวิสัย ไม่ใช่อุปนิสัยหรือพฤติกรรมปกติ” น.ส.บุญศรีเผย
ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า มาชี้แจงให้ศาลทราบว่า เพิ่งรับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อปี พ.ศ. 2559 จึงไม่ทราบเรื่องนี้มาแต่ต้น เมื่อเกิดเหตุการทุบรถ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ได้ลงพื้นที่และสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เยียวยาครอบครัว น.ส.บุญศรี ให้เป็นไปตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครอง พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และปัญหาการจัดตั้งตลาด จะสรุปผลในวันที่ 5 มี.ค. ศาลได้ขอให้แจ้งผลสรุปของคณะกรรมการให้ศาลทราบด้วย จะนำผลสรุปมาส่งให้ศาลทราบในวันที่ 6 มี.ค.นี้
“ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงว่าตนชี้นำให้เจ้าของตลาดดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้องนั้น ขอปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ชี้นำให้ผู้ประกอบการตลาดทั้ง 5 แห่ง เร่งยื่นขออนุญาตประกอบการตลาดภายใน 7 วัน เพราะได้สั่งการแล้วให้ทุกตลาดหยุดขาย ควรจะรอคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลออกมาก่อน คิดว่าคงไม่นาน ส่วนผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตลาด ทาง กทม.ได้เยียวยาโดยจัดหาตลาด 4 แห่งให้ขายแล้วเอาเป็นว่ายังจะไม่มีใครได้ขายในตลาดดังกล่าวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมา” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว