งาช้างเปรมชัย มาจากแอฟริกา

โอละพ่อคลิปเสียงคดี “เปรมชัย” ติด สินบนเจ้าพนักงานกลายเป็นคลิปเสียงสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วยกันไม่มีเสียงเจ้าสัวคนดัง อ้างเป็นความเข้าใจผิดของสื่อ ส่วนผลตรวจงาช้าง 4 กิ่งที่ยึดมาจากบ้าน “เปรมชัย” ผลตรวจออกมายืนยันเป็นงาช้างแอฟริกาทั้งหมด เตรียมแจ้งข้อหาเจ้าสัวเพิ่มฐานครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครองถือเป็นอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งมีโทษสูงกว่าข้อหาทารุณกรรมสัตว์

ความคืบหน้าการดำเนินคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ กับพวก ที่เข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.พ. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 80 คดีนี้ไม่มีความล่าช้า ไม่มีใครถ่วงเวลา หากนายเปรมชัยไม่มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 5 มี.ค.นี้ ขั้นแรกจะรายงานไปยังศาลเพื่อให้พิจารณา ถ้าศาลเห็นด้วยจะออกหมายจับฐานขัดหมายเรียก ถ้าศาลไม่เห็นด้วยจะยกคำร้อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะส่งสำนวนให้อัยการได้ก่อนครบฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 24 มี.ค.นี้

รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า การสอบปากคำผู้ต้องหาได้หรือไม่ได้ไม่สำคัญ แต่จะดำเนินการจากพยานหลักฐานต่างๆที่ชัดเจน ส่วนที่มีการวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างๆนานา ขอเรียนว่าตำรวจทำสำนวนฟ้องศาลยุติธรรม ส่วนกระแสสังคมจะไปฟ้องศาลพระภูมิก็เป็นเรื่องของกระแสสังคม กระแสสังคมไม่มีในกฎหมาย

ขณะที่ พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปปป. กล่าวว่า กรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายเปรมชัยกับเจ้าหน้าที่เรื่องเสนอสินบนนั้นเป็นความเข้าใจผิดของสื่อ คลิปเสียงดังกล่าวเป็นการคุยกันระหว่างนายยงค์ โดดเครือ กับเจ้าพนักงานป่าไม้ชื่อนายกิตติ ส่วนโทรศัพท์เป็นของผู้ช่วยหัวหน้าเขตอนุรักษ์ฯ ไม่มีเสียงของนายเปรมชัยแต่จากการสอบปากคำในวันแรกที่มีการกล่าวหาพบว่าได้ลบคลิปเสียงออก จากโทรศัพท์แล้ว ดังนั้น ไม่มีการพูดคุยระหว่างนายวิเชียรและนายเปรมชัยแต่อย่างใด คดีติดสินบนเจ้าหน้าที่เรามีเฉพาะพยานบุคคลแต่หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่มี

ด้านมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์จัดเวทีสาธารณะ 1 เดือน ความคืบหน้าคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ ระบุว่ามูลนิธิสืบฯ ติดตามความคืบหน้าคดีนี้มาโดยตลอดจึงจัดกิจกรรมเวทีสาธารณะขึ้นเพื่อติดตามการดำเนินคดี และมูลนิธิสืบนาคะเสถียรจะออกแถลงการณ์เพื่อทวงถามความคืบหน้า พร้อมเปิดเวทีพูดคุยวิเคราะห์การดำเนินคดีนี้ร่วมกับเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ มูลนิธิสืบนาคะเสถียรจะมีกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อติดตามความคืบหน้า ร่วมกับเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมในเดือน มี.ค.ตลอดทั้งเดือน สำหรับเวทีสาธารณะ 1 เดือนความคืบหน้า คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ 61 จะจัดขึ้นวันที่ 5 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร

ส่วนนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สิ่งที่กรมอุทยานฯ ได้ดำเนินการไปแล้วคือรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินตามขั้นตอน ของกระบวนการยุติธรรม ขอย้ำว่ากรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจและในวันที่ 28 ก.พ.นี้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการติดตามคดีการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ ซึ่งมี พล.ต.อ. จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็น ที่ปรึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการตรวจสอบงาช้างที่ยึดได้จากบ้านนายเปรมชัยว่า ขณะนี้ทีมปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ตรวจสอบสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) งาช้างที่ตรวจยึดได้จากบ้านนายเปรมชัยจำนวน 4 กิ่ง หรือ 2 คู่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พบเป็นงาช้างแอฟริกาทั้ง 2 คู่ ซึ่งถือว่ามีความผิดตามมาตรา 19 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง โทษสูงสุดจำคุก 4 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้แก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เมื่อปี 2557 เพื่อสกัดกั้นขบวนการค้างาช้างแอฟริกาซึ่งเป็นอาชญากรข้ามชาติผิดกฎหมาย ตามข้อตกลงของคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) และกรมอุทยานฯจะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับนายเปรมชัยในฐานความผิดดังกล่าวต่อไป โดยความผิดฐานครอบครองงาช้างแอฟริกามีโทษสูงกว่าความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ 2557 ที่ไม่สามารถดำเนินคดีกับนายเปรมชัยได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังประชุม ครม.ถึงที่มีการตั้งข้อสังเกตคดีนายเปรมชัย กรรณสูตกับพวกอาจมีการใช้เทคนิคทางกฎหมายเพื่อให้หลุดคดีว่า ต้องมองขั้นตอนการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ เช่น คดีการฆ่าสัตว์ซึ่งเป็นคดีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฟ้องร้องแล้วหลายคดี ซึ่งเป็นขั้นตอนของตำรวจที่จะต้องไปสืบสวนหาหลักฐานในส่วนของวัตถุพยานและพยานบุคคล เพื่อนำไปสู่การทำสำนวนคดีให้อัยการสั่งฟ้อง จากนั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

“อย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้าว่าคนจะทุจริตจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย เรื่องของกระบวนการยุติธรรม เอาคดีนี้ไปเทียบอีกคดีก็ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าคนรวยติดคุก ไม่ติดคุกเป็นคนละเรื่องกัน อย่าไปทำอย่างนั้นสังคมจะปั่นป่วน ขอให้เชื่อมั่น ผมได้กำชับไปกระทรวงทรัพย์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าให้ดำเนินการตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่ทุกเรื่องรัฐบาลสั่ง เหลืออย่างเดียวผมต้องไปฟ้องเอง เป็นอัยการเอง เป็นตำรวจเอง เพราะทุกคนคาดหวังกับผมทั้งนั้น แต่ผมพยายามทำหน้าที่ในกรอบอำนาจของผม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว