สุดสลด-หนีสุดขีด สองแม่ลูกวิ่งเข้าซุกในห้องน้ำหวังหลบไฟลุกไหม้อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นเปิดเป็นบริษัทรับทำบัญชีย่านเตาปูน ทั้งคู่สำลักควันดับก่อนถูกไฟเผาร่างดำเป็นตอตะโก มีสมาชิกในบ้านสำลักควันเจ็บอีก 3 ราย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ พฐ.ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

เพลิงไหม้คร่าชีวิตสองแม่ลูก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 ก.พ. พ.ต.ท.ชำนาญ วัยเจริญ สว. (สอบสวน) สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในตรอกข้างธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเตาปูน ตั้งอยู่ระหว่างซอยกรุงเทพฯ-นนทบุรี 28-30 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงประสานรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.นพล สุขบุญคง ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.ท.ทินกร วรโชติ รอง ผกก.(ป.) สน.เตาปูน ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูนและมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นเลขที่ 1296/93 บริษัท A.S.N. ฟิลด์คอร์ เซอร์วิส โซลูชั่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แอลแอลซี ประกอบธุรกิจรับทำบัญชี พบแสงเพลิงอยู่ระหว่างลุกลามจากชั้น 2 ขึ้นไปบนชั้น 3 และ 4 ของอาคาร มีกลุ่มควันพวยพุ่งจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าต้องตัดระบบไฟฟ้าก่อนให้ นักผจญเพลิงลำเลียงสายน้ำ 5 หัวฉีด เข้าไปฉีดน้ำไล่ควันควบคุมเพลิงนานประมาณ 45 นาที สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

ตรวจสอบเบื้องต้นพบต้นเพลิงอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร เป็นห้องเก็บเอกสารก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปชั้น 3 และ 4 มีนายอำนาจ งามสุริยโรจน์ อายุ 65 ปี เป็นเจ้าของอาคารและบริษัทดังกล่าว บาดเจ็บหมดสติจากการสำลักควัน เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวออกมาปฐมพยาบาลปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่ง รพ.บางโพ

นอกจากนี้ยังพบนายนภรณ งามสุริยโรจน์ อายุ 35 ปี และ ด.ช.ศุภสิทธิ์ งามสุริยโรจน์ อายุ 5 ขวบ บุตรชายและหลานชายนายอำนาจ สำลักควันนอนหมดสติอยู่ภายในชั้นล่างของอาคาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำทั้งหมดส่งรักษาตัวที่ รพ.บางโพ ต่อมานักผจญเพลิงเข้าไปตรวจสอบบริเวณชั้น 4 ภายในห้องน้ำพบผู้เสียชีวิต 2 ศพสภาพไหม้ดำเป็นตอตะโก ทราบชื่อต่อมานางณัฏทนันท์ บูรณะภากร อายุ 36 ปีและ ด.ช.กิติศักดิ์ งามสุริยโรจน์ อายุ 3 ขวบ ภรรยาและบุตรชายคนเล็กของนายนภรณ 1 ในผู้บาดเจ็บ

...

พ.ต.อ.นพลเปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วยนายอำนาจ งามสุริยโรจน์ เจ้าของบริษัท ขณะนี้ย้ายจาก รพ.บางโพไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพ แล้ว อาการยังสาหัสต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ส่วนนายนภรณ งามสุริยโรจน์ สามีผู้เสียชีวิตและ ด.ช.ศุภสิทธิ์ งามสุริยโรจน์ บุตรคนโต ทั้งคู่พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางโพ ขณะนี้พ้นขีดอันตรายอยู่ระหว่างการดำเนินการขอย้ายไปพักรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในอาคารเด็ดขาด อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้งในวันที่ 5 ก.พ. เบื้องต้นคาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะขณะเกิดเหตุคนในบ้านนอนหลับพักผ่อนหมดแล้ว

ต่อมาเวลา 10.00 น. น.ส.กุลจิรา สาสุขวัฒน์ ผอ.เขตบางซื่อ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุก่อนเปิดเผยว่า เดินทางมายังจุดเกิดเหตุเพื่อประเมินสถานการณ์พร้อมหาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย ภายหลังได้รับแจ้งเหตุทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รุดถึงที่เกิดเหตุไม่เกิน 7 นาที โดยใช้เวลาในการควบคุมเพลิงประมาณ 30 นาที ส่วนเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในทันทีนั้นเนื่องจากบริเวณชั้น 2 เป็นห้องเก็บเอกสารทั้งชั้นจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีก่อนลุกลามไปยังชั้น 3 และ 4 เป็นที่พักอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย

“สำหรับค่าเยียวยาผู้ประสบภัยทางสำนักงานเขตบางซื่อจะมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ประกอบด้วยค่าทำศพรายละ 1 หมื่นบาท ค่ารักษาพยาบาลรายละ 3 พันบาท ค่าปลอบขวัญรายละ 2 พันบาท และค่าเสียหายของอาคารอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาจะเข้ามาตรวจสอบความแข็งแรงอาคารอีกครั้ง” น.ส.กุลจิรากล่าว

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. เย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.หญิง ณปภัช ณัฎฐสุมน นพ.(สบ 3) กลุ่มงานนิติพยาธิ สถาบันนิติเวชวิทยา ผ่าชันสูตรศพนางณัฏทนันท์ บูรณะภากร อายุ 36 ปี และ ด.ช.กิติศักดิ์ งามสุริยโรจน์ พบทั้งคู่เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ก่อนถูกไฟคลอกร่างจนดำเป็นตอตะโก ต่อมาทางญาติผู้ตายเดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร ถนนพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี