อธิการบดี ม.รามคำแหง แจง แก้ไขหลักสูตรที่ สกอ. บอกไม่ได้มาตรฐาน เรียบร้อยแล้ว ตำหนิ ควรสอบถามให้ดีก่อน เพราะทำให้ทางมหาวิทยาลัย เสื่อมเสียชื่อเสียง

วันที่ 17 ม.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และคณะผู้บริหาร ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องดังกล่าวว่า ข้อมูลที่ สกอ. เปิดเผยนั้น คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะจำนวนหลักสูตรที่กล่าวถึงเป็นข้อมูลเก่าที่มหาวิทยาลัยปิดหลักสูตรไปแล้ว 23 หลักสูตร หลักสูตรที่ไม่เคยเปิดรับนักศึกษา จำนวน 1 หลักสูตร หลักสูตรที่งดรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2560 จำนวน 6 หลักสูตรและปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 หลักสูตร ส่วนหลักสูตรที่เหลือได้ดำเนินการปรับปรุงเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์และส่ง สกอ. รับทราบแล้ว

...

ทั้งนี้ สาเหตุที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เนื่องจากจำนวนอาจารย์ประจำหลักสูตรไม่เป็นไปตามเกณฑ์ เพราะมีอาจารย์บางท่านเกษียณอายุราชการ และลาศึกษาต่อ ซึ่งขณะนี้มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เปิดรับอาจารย์ประจำหลักสูตรมาทดแทนแล้ว และหลักสูตรส่วนใหญ่เป็นหลักสูตรปี 2555 ซึ่งจะครบรอบการประเมินและปรับปรุงหลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2558 ในปี 2560 ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการไปแล้ว และกำลังติดตามให้หลักสูตรเหล่านี้ ดำเนินการให้ผ่านองค์ประกอบที่ 1 ในปีการศึกษา 2560 ผลผลิตของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ยังเป็นที่ยอมรับจากทางสังคม ทั้งเรื่องการมีงานทำของบัณฑิต ความพึงพอใจของนายจ้างต่อคุณภาพบัณฑิต รวมทั้งผลงานทางวิชาการระดับชาติของอาจารย์ อธิบดี ม.ร. ยังยืนยัน ว่า 46 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดการศึกษามีมาตรฐานและมีคุณภาพ เห็นได้จากบัณฑิตที่ผลิตออกไปรับใช้สังคมจำนวนหลายแสนคน ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับจากนายจ้างในทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน จึงขอฝาก สกอ. ถึงเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนควรใช้ความระมัดระวัง รอบคอบ และตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน หลักสูตรทั้งหมดได้มาตรฐานหมดแล้ว อยากให้ สกอ. มาสอบถามทางมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะไปตีความ และควรปฏิรูปให้เหมือนองค์กรอื่นๆ ตามที่ท่านนายกฯ ได้ให้ปฏิบัติ มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสถาบันการศึกษาในภาพรวมอย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้