สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน พระราโชวาท “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปี 2561 เด็กทุกคนเป็นอนาคตของชาติ มีหน้าที่สืบสานและรักษาสิ่งดีงามที่บรรพบุรุษได้สร้างสมไว้ให้ พร้อมทั้งสร้างเสริมพัฒนาให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้น ขณะที่สมเด็จพระสังฆราชประทานคติธรรม ยกคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงวิธีทำให้เป็นคนดี เป็นที่รักของคนทั่วไป คืออัตถจริยา หรือการเป็นจิตอาสา พร้อมขอผู้ใหญ่เร่งปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้มีความหนักแน่นในการทำดี เพราะกำลังเล็กๆของเด็กจะช่วยสร้างสรรค์ประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า ส่วน “บิ๊กตู่” ขอให้เด็กเป็นคนดีของสังคม
เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 13 มกราคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้พระราชทานพระราโชวาท ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า “บ้านเมืองเรามีสิ่งดีงามมากมายที่บรรพบุรุษได้สร้างสมไว้ให้เรา เด็กทุกคนผู้เป็นอนาคตของชาติ จึงมีหน้าที่สืบสานและรักษาสิ่งดีงามเหล่านั้นไว้ พร้อมทั้งสร้างเสริมพัฒนาให้เจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นไป”
ขณะที่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานคติธรรม ความว่า “สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนวิธีที่ทำให้บุคคลได้ชื่อว่าเป็นคนดี เป็นที่รักของผู้คนทั่วไปไว้วิธีหนึ่งเรียกว่า อัตถจริยา หมายถึงการบำเพ็ญประโยชน์ การประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ช่วยเหลือ ทำงานสร้างสรรค์ด้วยความตั้งใจอย่างดีเลิศ ส่งเสริมให้เพื่อนสมาชิกในสังคมประพฤติดีงาม และมีสติปัญญา อัตถจริยา ดังกล่าวนี้ ปัจจุบันนิยมเรียกว่า จิตอาสา ซึ่งถ้าพิจารณาอย่างผิวเผินอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนไปว่าจิตอาสากำลังจำต้องเหน็ดเหนื่อยหรือเผชิญทุกข์กว่าคนที่ไม่เป็นจิตอาสา แต่ถ้าพิเคราะห์ในแง่มุมกลับกัน แท้จริงแล้วคนทำงานจิตอาสาด้วยใจจริง ย่อมมีความรู้สึกเบิกบานยิ่งกว่าคนไม่ทำงานจิตอาสา เพราะจิตอาสาที่แท้จริงจะไม่คิดว่าตนกำลังสูญเสียพละกำลังหรือประโยชน์ใดๆ โดยไร้ค่า หากกลับเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์ คือได้ความสุขใจ ชื่นใจที่เห็นความสุขของผู้อื่น และได้ภาคภูมิใจว่าเป็นผู้สร้างสรรค์สังคมที่ดีงาม
...
เด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญที่จะพาบ้านเมืองไทยให้รุ่งเรืองสืบไป จึงขอให้ผู้ใหญ่เร่งปลูกฝังและสร้างสรรค์ให้เด็กและเยาวชนเป็นผู้หนักแน่นในคุณธรรมข้ออัตถจริยา และขอให้เด็กๆ รู้สึกสนุกสนานเบิกบานทุกครั้งที่ได้ทำประโยชน์ จงอย่ายอมแพ้แก่ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือยากลำบาก ขอให้ระลึกไว้เสมอว่ากำลังเล็กๆของเด็กๆอย่างเรานี้แล มีอานุภาพสูงยิ่งที่จะช่วยสร้างสรรค์ประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า อย่ามัวรั้งรอผัดผ่อนให้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่เสียก่อนค่อยเริ่มทำความดี เพราะเมื่อนั้นเด็กๆ จะเผลอชินกับการทำความชั่ว จนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว และไม่รู้วิธีทำตนเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ในที่สุด ขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนมีกำลังใจที่จะบำเพ็ญประโยชน์ด้วยความสุขใจนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอจงรักษาคุณลักษณะจิตอาสาอย่างสมบูรณ์ไว้ตลอดกาล เพื่ออนาคตของตนเอง และสังคมไทยของเราทุกคน”
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ นำคณะผู้บริหาร นักเรียน นักศึกษา พร้อมศิลปิน น.ส.พัดชา เอนกอายุวัฒน์ หรือพัดชา เอเอฟ และนายเกียรติกมล ล่าทา หรือตุ้ย เอเอฟ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อนการประชุม คสช.และประชุมคณะรัฐมนตรี โดย น.ส.พัดชาเป็นตัวแทนติดดอกกล้วยไม้ประจำวันครูให้นายกฯ และมอบซีดีเพลง “เทิดเกียรติคุณครู” รวมถึงมอบให้ ครม.และเชิญนายกฯ เป็นประธานพิธีงานวันครู ประจำปี 2561 ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ ที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จากนั้นเด็กนักเรียนได้อวยพรนายกฯ ให้มีความสุข ซึ่งนายกฯ ตอบกลับขอให้มีความสุขเช่นกัน เป็นคนดีและคนเก่งของสังคมในวันข้างหน้า นอกจากนี้ ตลอดวันเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯได้เตรียมภาพขนาดเท่าตัวจริงนายกฯ จำนวนหลายอันสำหรับนำมาตั้งในงานวันเด็กที่จะจัดขึ้นที่ทำเนียบฯด้วย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ ถึงวันเด็กแห่งชาติ ปีนี้ด้วยว่า ทุกปีจะมีเด็กๆประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนจากความประมาทของพ่อแม่ผู้ปกครอง ชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ ขอวิงวอนไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะพาบุตรหลานไปฉลองวันเด็ก ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของบุตรหลาน โดยตัวผู้ปกครองหรือผู้ทำหน้าที่ขับรถต้องงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกัน พ่อแม่ผู้ปกครองที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และนำบุตรหลานซ้อนท้าย ต้องจัดหาหมวกกันน็อกให้บุตรหลานใส่เพื่อความปลอดภัยด้วย