'อดุลย์' ยกเสาเอก โครงการบ้านมั่นคงชุมชนมิตตคามร่วมใจ ที่บางใหญ่ เพื่อประชาชนมีที่อยู่อาศัยมั่นคง และถูกกฎหมาย ย้ำเน้นเจรจา ก่อนใช้กฎหมายเอาผิดชุมชนรุกเจ้าพระยา ...

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธียกเสาเอก “โครงการบ้านมั่นคงชุมชนมิตตคามร่วมใจ” ที่ซอยสุขาภิบาลบางใหญ่ 9 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยอย่างมั่นคง ปลอดภัย และถูกกฎหมาย ขณะเดียวกันจะได้พัฒนาพื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยมอบหมายให้ พม. โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. จัดทำโครงการรองรับที่อยู่อาศัยร่วมกับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

ซึ่ง พอช. ได้จัดทำแผนงานรองรับในพื้นที่ 3 เขต ได้แก่ ดุสิต บางซื่อ และบางพลัด รวม 12 ชุมชน 309 ครัวเรือน ที่ผ่านมามีชุมชนที่ได้รับผลกระทบย้ายออกจากพื้นที่และเข้าอยู่ในที่อยู่อาศัยใหม่ ดังนี้ แฟลต ขส.ทบ. ในพื้นที่เขตดุสิต 64 ครัวเรือน โครงการบ้านเอื้ออาทรท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 17 ครัวเรือน ซื้อที่ดินสร้างที่อยู่ใหม่บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี 53 ครัวเรือน อยู่ที่ดินเดิมในชุมชนเทวราชกุณชร 33 ครัวเรือน ย้ายออกจากพื้นที่กลับภูมิลำเนา 73 ครัวเรือน และซื้อที่ดินสร้างที่อยู่ใหม่ในโครงการบ้านมั่นคงชุมชนมิตตคามร่วมใจ รองรับ 63 ครัวเรือน ซึ่งได้ยกเสาเอก วันที่ 9 พ.ย.

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า สำหรับที่ดินโครงการบ้านมั่นคงชุมชนมิตตคามร่วมใจ มีขนาดพื้นที่ 2 ไร่ 2 งาน 56 ตารางวา เป็นที่ดินที่บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพฯ หรือ BAM ที่ขายให้แก่ชุมชนในราคาพิเศษ 10,700,000 บาท เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย โดย พอช. สนับสนุนสินเชื่อ 10,165,000 บาท และชุมชนสมทบเงินเพิ่ม 535,000 บาท ซึ่งการก่อสร้างโครงการฯ ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัยร้อยละ 70 และพื้นที่สาธารณะร้อยละ 30 ราคาก่อสร้างบ้านหลังละ 240,000บาท รวมเป็นเงิน 15,120,000 บาท

...

โดย พอช. สนับสนุนสินเชื่อ จำนวน 12,515,000 บาท และชุมชนสมทบเงินเพิ่ม 2,605,000 บาท อีกทั้ง มีการสร้างระบบสาธารณูปโภค รวมงบประมาณทั้งโครงการเป็นเงินทั้งสิ้น 30,545,000 บาท แผนงานก่อสร้างโครงการดังกล่าว ใช้ระยะเวลา 180 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน เม.ย. 2561 งบประมาณทั้งโครงการ 30,545,000 บาท ซึ่ง พอช.ได้สนับสนุนสินเชื่อจำนวนหนึ่ง ขณะที่ชุมชนสมทบเงินเพิ่ม การก่อสร้างใช้ระยะเวลา 180 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน เม.ย.2561

รมว.พม.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 82% ยอมรับข้อเสนอและย้ายออกจากพื้นที่ เหลือเพียงบางส่วนที่ยังคัดค้านไม่ยอมย้ายออก ส่วนใหญ่เป็นบ้านเช่าที่กระทบผู้มีผลประโยชน์ แนวทางแก้ปัญหาจะเน้นพูดคุยทำความเข้าใจถึงประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับในการมีบ้านเป็นของตนเอง เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ถูกกฎหมาย หากถึงที่สุดก็คงต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย.