เหยื่อรถยนต์ฟอร์ดกว่า 30 ราย เข้าร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน เหตุ สคบ. ใส่เกียร์ว่าง ยุติการช่วยเหลือคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งยังละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ผู้ใช้รถเสี่ยงอันตราย...
วันที่ 11 กันยายน 2560 เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ถ.แจ้งวัฒนะ นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน รับเรื่องร้องเรียนจาก นางสาวฌนิฏา สุขขวัญ ตัวแทนกลุ่มเหยื่อรถยนต์ฟอร์ด รุ่นโฟกัส และเฟียสต้า นำกลุ่มผู้เสียหายจากการใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดกว่า 30 ราย เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ การละเลยการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ทั้งนี้ ทางกลุ่มเหยื่อรถยนต์ได้มีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการยกรถยนต์ฟอร์ดมาจอดโชว์ พร้อมเขียนบรรยายความเสียหาย และชูป้ายเรียกร้องความเป็นธรรม
นางสาวฌนิฏา เผยว่า จากกรณีผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ด รุ่นโฟกัส เฟียสต้า และรุ่นอื่นๆ ได้รวมตัวกันร้องเรียนต่อ สคบ. ให้ดำเนินการกับบริษัทรถยนต์ฟอร์ด กรณีผลิตและจำหน่ายสินค้ารถยนต์บกพร่อง ทำให้ผู้ใช้รถฟอร์ดจำนวนมากต้องเสี่ยงอันตรายจากปัญหาต่างๆ อาทิ ระบบเกียร์หยุดทำงานกะทันหันขณะขับขี่ ประตูรถเปิดออกเองขณะขับขี่ และระบบระบายความร้อนบกพร่อง ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ฟอร์ดแล้วถึง 11 คัน ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยผู้บริโภคหลายร้อยรายได้ร้องเรียนปัญหาดังกล่าวต่อ สคบ. อย่างต่อเนื่อง ทั้งร้องเรียนเป็นรายบุคคล และเข้าร้องเรียนเป็นกลุ่มเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 60
ขณะที่ผ่านมา ร้องเรียนไปยัง สคบ. แต่ สคบ. กลับนิ่งเฉย ล่าช้า ดำเนินการไกล่เกลี่ยในลักษณะที่ไม่เอื้อต่อการคุ้มครองผู้เสียหาย ไม่มีการติดต่อกลับหรือแจ้งผลใดๆ แม้ผู้เสียหายจะติดตามทวงถามผลการดำเนินการหลายครั้ง และล่าสุด เจ้าหน้าที่ของ สคบ.ได้แจ้งต่อผู้เสียหายจำนวนหนึ่งว่า สคบ.ได้ยุติการปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคในกรณีรถยนต์ฟอร์ดแล้ว โดยอ้างเหตุว่ามีผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดจำนวนหนึ่ง (10 ราย) รวมกลุ่มกันยื่นฟ้องบริษัทฟอร์ดต่อศาลแพ่ง เป็นเหตุให้ สคบ.ไม่จำเป็นต้องดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภครายอื่นๆ ที่เหลืออีกต่อไป
...
อย่างไรก็ตาม สคบ. เป็นหน่วยงานรัฐ การอ้างเหตุผลแบบนี้ถือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการเสี่ยงอันตราย และเสียโอกาสที่จะเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองผู้บริโภคตามบทบาทหน้าที่ของ สคบ. ดังนั้นจึงรวมตัวกันเพื่อมาร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ดำเนินการตรวจสอบการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของ สคบ. อย่างเร่งด่วน เพราะ สคบ. ไม่มีความจริงใจกับผู้บริโภค ถ่วงเวลา ไม่เป็นกลาง ไม่คุ้มครองผู้บริโภคอย่างแท้จริง ทั้งที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย ปล่อยให้ผู้บริโภคต้องรับภาระสินค้าที่ชำรุดบกพร่อง และอาจก่อให้เกิดอันตราย
ทางด้าน นายวุฒิชัย แซ่ล้อ ผู้เสียหายจากการใช้รถยนต์ฟอร์ด เผยว่า เดือดร้อนจากการใช้รถยนต์ฟอร์ดอย่างหนัก เหมือนซื้อรถมาซ่อมแทนที่จะซื้อมาใช้ รถมีปัญหาดับกลางอากาศ 2 ครั้ง เปลี่ยนชุดคลัตช์ไปแล้ว 4 ครั้ง เปลี่ยนสมองเกียร์ 2 ครั้ง เคยเข้าร้องเรียนต่อ สคบ. แต่ก็เงียบไป จึงสอบถามความคืบหน้าไปทางหน้าเพจของ สคบ. แต่กลับได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า สคบ.ยุติการดำเนินการคุ้มครองผู้เสียหายรถยนต์ฟอร์ด เพราะมีการฟ้องร้องแบบกลุ่มแล้ว ซึ่งอยากชี้แจงว่าการฟ้องแบบกลุ่มเมื่อ 3 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา มีโจทก์ร่วมฟ้องเพียง 10 คน ส่วนคนอื่นๆ อีกกว่า 300 คน เป็นเพียงยื่นรายชื่อให้ศาลรับทราบว่านอกจาก 10 คนที่ยื่นฟ้อง ยังมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก แต่ผู้เสียหาย 300 กว่าคนนี้ ไม่ได้มีสถานะเป็นโจทก์ร่วมฟ้อง และศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยว่าจะรับเป็นคดีแบบกลุ่มหรือไม่ เท่ากับว่า 300 กว่าคนนี้ ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการฟ้องศาลแต่อย่างใด
ทั้งนี้ วินาทีแรกที่ได้ยินเจ้าหน้าที่ สคบ. ขอยุติบทบาทการช่วยเหลือ ช็อก ตกใจมาก ว่านี่หรือหน่วยงานรัฐ ซึ่ง สคบ.จะอ้างเหตุผลว่าพวกเราไปฟ้องศาลแล้ว จึงขอยุติกระบวนการช่วยเหลือคุ้มครองแบบนี้ไม่ได้ หมายความว่าหน่วยงานรัฐช่วยอะไรไม่ได้ และไม่คิดจะช่วย อยากให้หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น สคบ. หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นใจในความทุกข์ร้อนของผู้บริโภค อยากขอความยุติธรรมและการเยียวยา พวกเราไม่ได้อยากซื้อรถมาซ่อม.