การพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการศึกษาทดสอบวิเคราะห์เพื่อให้ทันสมัยและเชื่อถือได้ ซึ่งต้องอาศัยห้องปฏิบัติการ ล่าสุด กรมทางหลวงจึงตั้งศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีงานทางเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

รายละเอียดของศูนย์ฯแห่งนี้เป็นอย่างไร “รายงานวันจันทร์” วันนี้ มีข้อมูลจาก คุณธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เกี่ยวกับรายละเอียดของศูนย์นี้มาชี้แจงให้ทราบ

------------------

ถาม-ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีงานทางมีที่มาอย่างไร และตั้งอยู่ที่ไหน

ธานินทร์–ศูนย์แห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้เกิดการบูรณาการองค์ความรู้ด้านงานทาง สำหรับทดสอบ วิเคราะห์ และวิจัย ด้านงานทางและระบบอำนวยความปลอดภัย รวมถึงฝึกอบรมบุคลากรและการถ่ายทอดเทคโนโลยี พร้อมยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีงานทางแห่งภูมิภาคนี้

ศูนย์ตั้งอยู่บริเวณถนนพระราม 2 กม.ที่ 6+500 ติดกับสำนักงานแขวงการทางแสมดำ เนื้อที่ 20 ไร่ ประกอบด้วยอาคารบริการ 1 หลังเป็นอาคารขนาด 2 ชั้น ใช้เป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารด้านงานทางหรือห้องสมุดจัดฝึกอบรมและแสดงนิทรรศการ นอกจากนี้ยังมีอาคารปฏิบัติการทดสอบเป็นอาคาร3ชั้น มีห้องแล็บ 36 ห้อง พื้นที่อำนวยการ พื้นที่ทดลองทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ ที่ตั้งสำนักวิจัยและพัฒนางานทาง และสำนักอำนวยความปลอดภัย รวมพื้นที่ใช้สอย 28,746 ตารางเมตร ใช้งบประมาณก่อสร้าง 780 ล้านบาทเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.2559 แล้วเสร็จวันที่ 11 ก.ย.2562

...

ถาม-หน้าที่ของศูนย์ทำอะไรบ้าง

ธานินทร์–วิเคราะห์และวิจัยงานเพื่อสนับสนุนและปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงานด้านงานในประเทศและภูมิภาคให้มีคุณภาพและทันสมัย พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางเพื่อให้คำแนะนำแก่กรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง งานอำนวยความปลอดภัย เพื่อเสริมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในการออกแบบถนน การทดสอบทางฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับงานทาง เช่น การวิเคราะห์ความปลอดภัยด้านการมองเห็น แสงที่ใช้ในถนน การออกแบบกำแพงกันเสียง (Sound Barrier)และทดสอบผลกระทบจากการชนของรถ (Impact Test) นอกจากนี้ยังมีงานระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (Intelligent Transport Systems: ITS)รวมถึงพัฒนาบุคลากร นับเป็นศูนย์แห่งแรกของไทย

ถาม-การให้บริการมีเงื่อนไขอย่างไร

ธานินทร์–ศูนย์แห่งนี้เปิดให้กับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชนรวมถึงสถาบันการศึกษา สามารถติดต่อขอใช้บริการได้ที่ห้องแล็บ โดยมีค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กรมกำหนด ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการขอใช้บริการ ซึ่งไม่แพงเมื่อเทียบกับห้องแล็บเอกชน โดยเครื่องมือ อุปกรณ์การทดสอบทั้งหมดได้มาตรฐานทุกชิ้น ทั้งนี้ หลังจากศูนย์แห่งนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทางกรมจะย้ายศูนย์เก่าที่ตั้งภายในกรมมาไว้ที่นี่ รวมถึงสำนักวิจัยและพัฒนางานทาง และสำนักอำนวยความปลอดภัย เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงาน.