แก๊งนายพลทหารอุ้มรีดนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนโดนอ่วม “ผู้การโจ๊ก” แจ้งเพิ่มข้อหาอั้งยี่ หรือสมคบร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กระทำการเป็นผู้มีอิทธิพลเอาผิดฐานฟอกเงิน สน.ห้วยขวาง เตรียมขออายัดตัวผู้ต้องหาชาวสิงคโปร์ในคดีฉ้อโกง หลังเคยหลอกเหยื่อหญิงชาวจีนอ้างว่าทำบัตรยืนยันสัญชาติไทยได้ ด้านรองโฆษก ตร. เผยขยายผลเจอผู้เกี่ยวข้องแก๊งอุ้มเพิ่มอีกกำลังพิสูจน์ตัวบุคคล
กรณี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว และ สน.โคกคราม จับกุม พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. จ.อ.เสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ จ.อ.อภิวัฒน์ ศรีนะพรม จ.อ.เทพพิทักษ์ รัดทะนี และ จ.อ.ทรงวุฒิ เที่ยงธรรม ทั้ง 4 นาย สังกัดกรมสารวัตรทหารเรือ นายโอภาส ศรียา และนายโก๊ะ เต๊ก ชวน ชาวสิงคโปร์ ร่วมกันก่อเหตุอุ้มนายสุรชัย แซ่ย่าง นักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน ประธานบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ย่านซอยนวลจันทร์ และหุ้นส่วนสายการบินแห่งหนึ่ง ไปรีดเงินค่าคุ้มครองจำนวน 20 ล้านบาท ญาติเหยื่อต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท นายสุรชัยถูกปล่อยตัวหลังโอนเงินให้ เข้าร้องเรียนต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กระทั่งมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน ยังขาดอีก 2 คน คือ ส.อ.อุทิศ ก่อแก้ว หรือจ่ายักษ์ ทหารนอกราชการ อดีตสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย และนายฐิติกร ชื่นอุรา ลูกน้องจ่ายักษ์ หลบหนีลงภาคใต้ จากการขยายผลได้เบาะแสว่ามีชาวจีนเคยตกเป็นเหยื่อท้องที่ สน.วังทองหลาง สน.ห้วยขวาง และ จ.ชลบุรี โดยนายโก๊ะ เต๊ก ชวน อาชีพไกด์และล่าม หาเหยื่อมาป้อนให้แก๊งนายพลอุ้มไปรีดเงิน
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 ส.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. กล่าวถึงการติดตามจับผู้ต้องหาที่เหลือว่า ส.อ.อุทิศ หรือจ่ายักษ์ ถูกปลดออกจากราชการเนื่องจากหนีทหาร และนายฐิติกรเป็นลูกน้องของจ่ายักษ์คอยติดตามและทำงานให้ ขณะนี้ประสานทหารตรวจสอบว่า นายฐิติกรเคยเป็นอดีตนายทหารถูกปลดออกจากราชการหรือไม่ ชุดสืบสวนได้เบาะแสว่าทั้งคู่หลบหนีไปอยู่กับเพื่อนที่ต่างจังหวัด และรู้ที่กบดานแล้ว ตนสั่งการให้จับตัวมาให้ได้ รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการทำสำนวนสอบสวนให้พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ทั้งในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 10 คนที่มีหมายจับแล้ว และผู้ต้องหาคนอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จากการขยายผลการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีผู้ต้องหาเพิ่มเติมความผิดฐานอั้งยี่ หรือสมคบคิดร่วมกันกรรโชกทรัพย์กระทำการเป็นผู้มีอิทธิพล เพื่อดำเนินการในความผิดฐานฟอกเงินต่อไป ขณะนี้มีผู้เสียหายนักธุรกิจชาวจีนร้องทุกข์เพิ่มเติมจำนวน 2 ราย ท้องที่ สน.วังทองหลาง และ สน.ห้วยขวาง รับคำร้องทุกข์และเร่งรัดออกหมายจับต่อไป
...
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 10 คน ข้อหาร่วมกันบุกรุกและร่วมกันกรรโชกทรัพย์ จับกุมได้แล้ว 8 คน และอยู่ระหว่างตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี 2 คน จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องพบว่า ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล หากพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
มีรายงานว่า นายฐิติกร ลูกน้องจ่ายักษ์ จะอุ้มรีดเงินชาวต่างชาติที่มีปัญหาเรื่องสวมบัตรประชาชน และประกอบธุรกิจเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยมีนายตำรวจในสังกัด ปอศ. เป็นผู้ตรวจสอบประวัติ และใช้ความเป็นตำรวจเข้าแสดงตัวเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ตัวกับผู้เสียหายที่ส่วนใหญ่มีความผิดจริง จึงต้องยอมจ่ายเงินเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี ล่าสุดได้เบาะแส 2 ผู้ต้องหาว่า คนหนึ่งหลบหนีไปอยู่กับเพื่อนทหารพรานในค่ายทหารพรานที่ภาคใต้ และอีกคนหลบหนีอยู่แถวชานเมือง ชุดสืบสวนได้ประสานผู้บังคับบัญชาทหารจับกุมส่งตัวมาดำเนินคดี
พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. กล่าวว่า การจับตัวนักธุรกิจต่างชาติหรือคนไทยที่ทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเกิดขึ้นมานานแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาโดยตลอด เริ่มจากกลุ่มชาวต่างชาติด้วยกันที่รู้รายละเอียดของเหยื่อ ทั้งข้อมูลส่วนตัว การเงิน หรือการดำรงชีวิต จากนั้นก็ร่วมมือกับกลุ่มคนที่ลักษณะคล้ายกับคนมีสี แต่งกายคล้ายหน่วยต่างๆ เข้าจู่โจมเจรจากับเหยื่อ ใช้กลวิธีหลอกลวงให้เหยื่อกลัวด้วยข้อมูลต่างๆที่ศึกษามาอย่างดี จนเหยื่อเกิดหลงเชื่อ เกรงกลัวทั้งอันตรายแก่ตัวเองและครอบครัวจึงยอมจ่ายเงินให้ หากเหยื่อไม่มีธุรกิจใหญ่โตจะดำเนินการในลักษณะข่มขู่ทางโทรศัพท์ มาเวียนที่บ้านให้เหยื่อและครอบครัวเกิดความกลัว ยินยอมจ่ายเงิน หากเหยื่อเป็นชาวต่างชาติจะทำทีเป็นนายหน้าติดต่อ อ้างว่าสามารถวิ่งเต้น ทำบัตรประชาชน หรืออำนวยความสะดวกในด้านใบอนุญาตในการทำธุรกิจต่างๆ โดยต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ในราคาที่กลุ่มคนร้ายกำหนด แต่ไม่สามารถทำให้ได้อย่างที่อ้าง
ต่อมา พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า นายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ เคยก่อเหตุฉ้อโกงในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อปี 59 มีหญิงชาวจีนตกเป็นเหยื่อ ผู้เสียหายแต่งงานกับสามีชาวไทย หลังสามีเสียชีวิต นายโก๊ะ เต็ก ชวน อ้างว่าสามารถทำบัตรยืนยันสัญชาติไทยให้ได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 750,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินไปให้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านอโศก-ดินแดง เบื้องต้นขออายัดตัวนายโก๊ะ เต็ก ชวน เพื่อดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง