ผู้ว่าฯ จันทบุรี หวั่นเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว แจ้งปัญหาหลังชาวบ้านถามไถ่ทำไมคนแอฟริกันเต็มเมือง ตม.จันทบุรี เผยมีชาวแอฟริกันแค่ 700 คน ส่วนที่อยู่เกินกำหนดเพียง 15-20 คน พบหากทำผิดกฎหมายจับทันที
จากกรณีที่ชาวจังหวัดจันทบุรี มีคำถามเรื่องการเข้ามาทำกินของคนแอฟริกาในพื้นเป็นระยะเวลานานหลายปี ซึ่งมีผู้โพสต์ข้อความในสังคมออนไลน์ ในการตั้งกระทู้คำถาม แล้วส่งต่อข้อมูลทางโลกโซเชียล มีการแชร์ข้อความเป็นจำนวนมาก จนทำให้หลายฝ่ายเกรงจะกระทบต่อความมั่นคง ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (คนจันท์มีคำถาม ทำไมชาวแอฟริกาเต็มเมือง ผวจ.ลงพื้นที่รับฟังปัญหา)
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 60 นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การแชร์ และโพสต์ข้อความในโลกโซเชียล เป็นข้อมูลคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยเฉพาะกรณีชาวต่างชาติแอฟริกันที่เข้ามาประกอบอาชีพและอาศัยอยู่ใน จ.จันทบุรี ทำให้เกิดความสับสนในสังคม และอาจสร้างความเข้าใจผิด ส่งผลถึงความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือถึงประชาชนในการแสดงความคิดเห็นใดๆ ก็ตาม ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น แต่ไม่อยากให้การแสดงความคิดเห็นที่ขาดข้อมูลความเป็นจริงรอบด้าน จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ส่งผลต่อความมั่นคงภายในประเทศ
ดังนั้นก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ ขอให้ตรึกตรองใช้วิจารณญาณให้รอบคอบ หากสงสัยหรือมีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ สามารถแสดงความคิดเห็นเสนอแนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โดยตรง
พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ ผกก.ตม.จันทบุรี กล่าวว่า ในพื้นที่จันทบุรีมีคนต่างด้าวผิวสีอยู่ประมาณ 700 คน ได้แก่ สัญชาติกินี มาลี แกมเบีย โดยเป็นกลุ่มที่มีวีซ่าประเภทท่องเที่ยว ธุรกิจ ชีวิตบั้นปลาย ฯลฯ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มที่เคยมี แต่อยู่เกินกำหนด หรือ Over Stay ตามข้อมูลมีอยู่ประมาณ 15-20 คน โดยกลุ่มคนผิวสีมีการพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองจันทบุรี จึงอาจทำให้ดูหนาแน่นในพื้นที่นั้นๆ
...
อย่างไรก็ตามทาง ตม.ได้ใช้มาตรการในการออกตรวจสอบความถูกต้องของการอยู่ในราชอาณาจักร ทั้งที่ทำงานโดยเฉพาะตลาดพลอย ที่พักอาศัย รวมถึงมีแผนในการกวดขันติดตามจับกุมกลุ่มที่อยู่เกิน (Over Stay) อยู่แล้ว หากไม่แจ้งที่พักตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมามีผลจับกุมเป็นรูปธรรม ทั้งหมดรวมกันประมาณ 10% ของจำนวนคนผิวสีทั้งหมด
นอกจากนี้ ตม.จันทบุรี พร้อมหน่วยงานในพื้นที่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ รวมถึงสมาคมผู้ค้าอัญมณีฯ ภาคเอกชนต่างรับรู้และเฝ้าระวังปัญหาที่อาจเกิดขึ้น มีการประชุมกรรมการฯ จังหวัดประจำทุกเดือน อย่างไรก็ตาม การนำเสนอผ่านทางช่องทางในโซเชียล ถือเป็นการเปิดช่องทางให้ข้อมูลในการช่วยกันปกป้องสังคมใน จ.จันทบุรี ร่วมกัน.