เมื่อเร็วๆนี้นักชีววิทยาด้านการประมงในแอนตาร์กติกจากองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เผยว่านกเพนกวินเป็นสัตว์มีประโยชน์ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจถึงการต้องอนุรักษ์มหาสมุทรทะเลใต้ เพราะนกเพนกวินเป็นสายพันธุ์ที่มีวิถีชีวิตเชื่อมโยงกับการจัดการของระบบนิเวศ ทั้งนี้ ในปี 2558 จำนวนนกเพนกวินลดลงในแถบพื้นที่เกาะกาลาปากอสไปจนถึงแอนตาร์กติกา ทำให้สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature – IUCN) ได้เพิ่มรายชื่อนกเพนกวินที่ตกอยู่ในภาวะอันตรายคือพันธุ์อาเดลี และพันธุ์ราชา
ปัญหาเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้น้ำแข็งเคลื่อนตัวและละลายลงจากน้ำทะเลที่ร้อนขึ้น รวมถึงถูกคุกคามอย่างรุนแรงจากการทำประมง สัตว์หลายชนิดทั้งนกเพนกวิน ปลาวาฬ แมวน้ำ ปลาทูธฟิช ต่างตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะขาดแคลนคริลล์ซึ่งเป็นอาหารของบรรดาสัตว์ทะเล นักวิทยาศาสตร์เผยว่า สัตว์เหล่านี้พยายามดิ้นรนปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
มาตรการที่น่าจะส่งผลที่ดีในอนาคตคือการที่หลายประเทศตั้งกลุ่มทำข้อตกลงในการคุ้มครองอาณาเขตทางทะเลเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนของทะเลรอสส์และมหาสมุทรแอนตาร์กติกในชื่อคณะกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรชีวิตทะเลแอนตาร์กติก (CCAMLR) จะช่วยให้มั่นใจว่าบรรดาสัตว์ในทะเลจะอยู่รอดได้ในอนาคตที่ไม่มีความแน่นอน.