สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เผย “วันร้อน” ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับ กทม. 27 เม.ย.นี้ เวลา 12.16 น. ขณะที่พื้นที่อื่นๆ ตั้งแต่ เม.ย. – พ.ค.นี้ ทยอยร้อนเริ่ม 5 เม.ย. ที่ อ.เบตง จ.ยะลา และไปสิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย. ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย เริ่มจากใต้สุดของประเทศไทย ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ในวันที่ 5 เม.ย. 2560 เวลาประมาณ 12.19 น. หลังจากนั้นดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นที่เหนือขึ้นมาเรื่อยๆ โดยวันที่ 10 เม.ย. ที่ จ.ภูเก็ต เวลา 12.28 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่พัทยา จ.ชลบุรี เวลา 12.15 น. จนกระทั่งวันที่ 27 เม.ย. เวลาประมาณ 12.16 น. ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในแนวตั้งฉากกรุงเทพมหานคร
จากนั้นวันที่ 30 เม.ย. ที่ จ.นครราชสีมา เวลา 12.09 น. วันที่ 1 พ.ค. ที่ จ.อุบลราชธานี เวลา 11.58 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ จ.นครสวรรค์ เวลา 12.16 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่ จ.สกลนคร เวลา 12.00 น. วันที่ 9 พ.ค. ที่ จ.อุดรธานี เวลา 12.05 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่ จ.เชียงใหม่ เวลา 12.22 น. และวันที่ 19 พ.ค. 2560 เวลาประมาณ 12.17 น. ดวงอาทิตย์จะตั้งฉากกับเหนือสุดของประเทศไทย ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ทั้งนี้ การที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นโลก ทำให้ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ แต่อุณหภูมิจะสูงที่สุดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณฝน เมฆ อิทธิพลจากมรสุม ความร้อนสะสมในบรรยากาศ ฯลฯ ก็อาจส่งผลต่ออุณหภูมิได้
รอง ผอ.สดร.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน ระหว่างแนวละติจูด 5-20 องศาเหนือ ประเทศที่อยู่ในบริเวณนี้จะมีวันที่ดวงอาทิตย์ผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะมากที่สุดปีละ 2 วัน โดยจะมีคาบการโคจรพาดผ่านแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดของประเทศไทยจึงเห็นดวงอาทิตย์ผ่านเหนือศีรษะไม่พร้อมกัน และในครั้งต่อไปดวงอาทิตย์จะเคลื่อนที่มาอยู่ในแนวตั้งฉากกับกรุงเทพฯ อีกครั้ง ช่วงฤดูฝนในวันที่ 16 ส.ค. 2560 เวลาประมาณ 12.24 น.
...