รับไม่ได้!! เจ้าของหอพัก คดี "น้องปอนด์" นศ.ม.ศิลปากร ที่ถูกกลุ่ม 18 วัยรุ่น ใช้ไขควงแทงปักหัว ครวญ เว็บสื่อหัวสีดัง มั่ว อ้างชื่อตัวเองไปให้สัมภาษณ์ในเรื่อง ที่อธิการบดีมาตรวจเยี่ยมหอ แล้วมีการพูดถึงเรื่องสถานบันเทิง ทั้งที่ไม่เคยให้สัมภาษณ์ ระบุเสียหายหนักเตรียมทนายดำเนินการแล้ว...
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญที่นายธีรพงศ์ ธิตะฐาน อายุ 24 ปี "น้องปอนด์" นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี บุกเข้าไปรุมทำร้ายในหอพักและฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม โดยเพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยกันในห้องอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมและติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีทั้งหมด 18 ราย
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 มี.ค. ผศ.ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบรอบมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี พบสถานบันเทิงร้านอาหาร จำหน่ายสุรา ซึ่งเปิดให้บริการยามค่ำคืน จำนวนมากตั้งให้บริการอยู่ในบริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัย
ต่อมาเวลา 18.40 น. น.ส.กนกสิริ น้อยบุตร อายุ 35 ปี ผู้จัดการหอพักที่เกิดเหตุ ได้โทรศัพท์มายังผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ร้องเรียนว่ากรณีที่เพจข่าวออนไลน์หนังสือพิมพ์หัวสีส่วนกลางฉบับหนึ่ง ได้ลงข้อความข่าวในระบุว่า
"ผศ.ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดี ม.ศิลปากร นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบรอบมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ก่อนเข้าพูดคุยกับ น.ส.กนกสิริ น้อยบุตร อายุ 35 ปี เจ้าของหอพักที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามและหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสาเหตุ ปัญหาต่างๆ และแนวทางแก้ไขในอนาคต ซึ่งเบื้องต้นทั้งคู่มีความเห็นตรงกันว่า แม้ว่าหอพักนี้จะตั้งอยู่ใกล้เคียงบริเวณมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานศึกษา แต่กลับมีสถานบันเทิงจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่รายล้อมด้วย ทำให้ทางเจ้าของหอพักได้รับผลกระทบมาก ทั้งเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง และดนตรีที่เสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญ อาจเป็นที่มาในการก่อเหตุอาชญากรรมหลายๆ อย่าง"
...
น.ส.กนกสิริ กล่าวว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ข้อความที่ลงในเพจข่าวออนไลน์หนังสือพิมพ์หัวสีส่วนกลาง ฉบับดังกล่าวทำให้ตนได้รับผลกระทบมาก ได้รับด่าทอ การเกลียดชัง จากกลุ่มผู้ประกอบการ และนักศึกษาบางส่วน เท่ากับสร้างศัตรูให้ตน ตนยืนยันไม่เคยให้สัมภาษณ์ข้อความเห็นดังกล่าวกับนักข่าวฉบับดังกล่าว ทั้งนี้ข้อความอาจเป็นความเห็นส่วนตัวของอธิการบดีนักข่าวควรแยกประเด็นผู้ให้ข่าวให้ชัดเจน ยอมรับพูดคุยกับอธิการฯจริง แต่ใช้เวลาสั้นๆ เพียง 3-5 นาที และมีการพูดคุยในเรื่องประเด็นความปลอดภัยของหอพักเท่านั้น โดยอธิการบดีได้กล่าวว่า หอพักของตนมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ขอให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลเข้าออกเพิ่มขึ้น ซึ่งตนก็ได้แจ้งไปแล้วว่า หลังเกิดเหตุได้กำชับยามดูแลรักษาความปลอดภัยให้ตรวจบัตรผู้เข้าออกทุกคนทั้งญาติ นักศึกษาหรือ ผู้มาเยี่ยมเพื่อนที่พักอาศัยอยู่ในหออย่างเข้มงวด และไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าภายในหอพักหากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้พักในหอ ซึ่งอธิการก็พอใจในมาตรการดังกล่าว
"เหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นตนได้รับผลกระทบมากอยู่แล้ว แต่ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกอย่างตามที่ร้องขอ แต่เมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้จากสื่อฉบับนี้อีกตนรับไม่ได้ ขณะนี้ได้ปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการแล้ว" น.ส.กนกสิริ กล่าว