หนุ่มกบินทร์ โพสต์เฟซบุ๊กถูกแก๊งตำรวจ-ทหาร จับตัวไปอุ้มรีดทรัพย์ โดยพยายามจะเค้นเรื่องยาเสพติด และกรรโชกทรัพย์จำนวน 5 แสน แต่ต่อรองให้ไป 5 หมื่น ทั้งที่ออกจากคุกมาก็เลิกยุ่ง จนภายหลังเป็นข่าวมีพันเอกโทรมาขอเคลียร์ให้ และได้เข้าไปแจ้งความเกรงเรื่องจะเงียบ และขอให้ ตร.ดูแลความปลอดภัยให้ด้วย...

จากกรณีมีเฟซบุ๊กชื่อ “ตัวคนเดียว เฟี้ยวกว่าเยอะ” ได้โพสต์ข้อความให้ช่วยกันแชร์ด้วยครับ พวกนี้เป็นตำรวจทหารปลอม ชอบจับไปเรียกค่าไถ่ ช่วยกันแชร์ด้วยครับ แจ้งความแล้วที่ สภ.กบินทร์บุรี แต่คดียังไม่คืบหน้า เพราะมีระดับผู้การฯมาขอร้อง ไม่ให้ตำรวจกบินทร์บุรีออกหมายจับ จะไปร้องเรียนก็สงสารตำรวจดีๆ ที่ไม่รู้เรื่องจะโดนย้ายอีก ก็มีทางนี้แหละครับที่จะจับเองได้ ใครเจอคนพวกนี้มีรางวัลให้ 1 หมื่นบาทครับ พร้อมเบอร์โทร 097-1217616 พร้อมลงรูปในหน้าเฟซเป็นรูปกล้องวงจรปิดของแก๊งอุ้มจำนวน 32 ภาพ

ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบเจ้าตัวเพื่อขอสัมภาษณ์รายละเอียด นายสมปอง สารมูล อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 52 /1 หมู่ที่ 5 ตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ได้กล่าวว่า ในช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 23 ต.ค.59 ขณะที่กำลังอยู่ข้างบ้านมีรถเก๋งวีออส สีดำ ทะเบียน 4297 กทม. มาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งรถคันดังกล่าวมาด้วยกัน 3 คน 2 ใน 3 ได้เดินลงมาจากรถ คนแรกลักษณะผอมสูงผิวดำแดง อายุ 40 ปีเศษ คนที่ 2 เตี้ยขาว อายุประมาณ 50 ปีเศษ พร้อมกับมีรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลตสีดำเข้ามาจอด มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คนลงมาหาตน พร้อมอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เพื่อต้องการทราบเรื่องข้อมูลยาเสพติด

นายสมปอง ได้กล่าวว่า หลังจากพ้นโทษออกมา ตนเองเลิกเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่กลุ่มคนดังกล่าวไม่เชื่อ พยายามจะอุ้มขึ้นรถ ตนเองพยายามหนีแต่หนีไม่รอด ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 1 ในนั้นแต่งชุดสารวัตรทหาร อุ้มขึ้นรถต่อหน้าภรรยา พร้อมทั้งขับรถออกไป ทำให้ภรรยาหวาดกลัวเกรงว่าตนเองไม่ปลอดภัย จึงรีบแจ้งความกับ ร.ต.ท.ชยพล มั่นคง พนักงานสอบสอน สภ.กบินทร์บุรี ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งเป็นคนร้ายได้พาตนขึ้นรถมาตามถนนสายสุวรรณศร และมาจอดรถในพื้นที่ประจันตคาม พยายามเค้นให้ตนบอกเรื่องยาเสพติด โดยกลุ่มดังกล่าว กล่าวหาว่าตนเองเป็นคนค้ายาเสพติด มีเงินหลายสิบล้าน เมื่อตนเองปฏิเสธได้ถูกกลุ่มที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทหารซ้อม

...

หลังจากนั้นได้ขับรถพาตนเองไปเข้าพื้นที่เส้นถนนสายองครักษ์ จังหวัดนครนายก ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวให้ตนเองโอนเงินให้จำนวน 5 แสนบาท จึงจะยอมปล่อยตัว แต่ตนเองบอกว่าไม่มี ต่อรองเหลือ 50,000 บาท หลังจากตกลงได้ตนเองจึงได้โทรศัพท์ไปหาภรรยา คือ น.ส.ศิริมา น้ำค้าง อายุ 39 ปี ไปกู้เงินจากนายบัง หลังจากได้เงินมาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี ได้พาภรรยาไปโอนเงินที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาโลตัส กบินทร์บุรี จำนวน 50,000 บาท เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ไปจอดเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง พร้อมตรวจสอบยอดเงินว่ามีเงินโอนเข้ามาจริง จึงได้พาตนเองไปปล่อยแถววัดพระธรรมกาย และให้เดินทางกลับบ้านเอง

แต่ภายหลังมีนายทหารระดับยศพันเอก ติดต่อขอเคลียร์คดี เนื่องจากทราบว่ามีการแจ้งความไว้ พร้อมใหส.ท.วิศรุต รามัญอุดม กับ พ.จ.อ.ศิริชัย ทิพปกรรณ์ ที่ร่วมขบวนการอุ้มตน นำเงินมาคืนพร้อมดอกเบี้ย ให้ตนเองรับเงินคืนที่ สภ.กบินทร์บุรี เมื่อ 26 ธ.ค.59 เพื่อไม่ให้ดำเนินคดีแพ่งและอาญาในเรื่องนี้ ตนเห็นว่าคดีความยังไม่คืบหน้า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการ และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มชายดังกล่าวจะแอบมาทำร้ายตนเอง.