ดีเอสไอ ออกหมายเรียกคนขวาง-ปลุกระดม ในพื้นที่ ม.44 รายงานตัว 3 มี.ค.นี้ จ่อประชุมหาความชัดเจนเรื่องข้อบังคับ ก่อนแจ้งเตือนพระ-ศิษย์ ชุมนุม ผู้ค้าตลาดกลางคลองหลวง โอดขายของไม่ได้ ไม่มีเงินเลี้ยงปากท้อง วอนยกเลิก ม.44 ...

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่บริเวณทางเข้าตลาดกลางคลองหลวง มีเจ้าหน้าที่ทหารนำป้ายประกาศระบุข้อความว่า "พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ไม่อนุญาตให้ประกอบกิจกรรมชุมนุม จึงขอความกรุณา พระภิกษุสงฆ์ สามเณรและผู้ชุมนุม ออกจากพื้นที่บริเวณนี้โดยเร็ว เพื่อจะได้ประกอบกิจการการค้าตามปกติต่อไป หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีฐานบุกรุก ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 364 และมาตรา 365" มาติดไว้ทางเข้าออก 3 จุดรอบตลาด

ส่วน ที่ บก.ตชด.ภ.1 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางมาเข้าร่วมประชุมประเมินสถานการณ์และแนวทางปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยมี พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักคดีพิเศษภาค พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษก ดีเอสไอ ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และกรมการปกครอง

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว ก่อนเข้าประชุมเพียงสั้นๆ กรณีเมื่อค่ำวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา นายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ารายงานสรุปสถานการณ์ที่เกี่ยวกับคดีวัดพระธรรมกายนั้น ท่านนายกฯไม่มีข้อสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ให้ดำเนินการตามกฎหมาย

เวลา 10.00 น. ที่ประตู 5 วัดพระธรรมกาย พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย แถลงข่าวว่า มีเหตุการณ์ 1.เจ้าหน้าที่เข้ามาอาคาร 60 ปี โดยพลการ ภาพจากกล้องวงจรปิด พบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสวมเครื่องแบบ มุงตรงไปอาคาร 60 ปี และทำทีท่ากำลังดึงสายสัญญาณกล้องวงจรปิดออก อีกทั้งจับกุม รปภ.ของวัด คำถามคือ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ต้องการทำอะไร 2.บุคคลไม่ระบุว่าเป็นใคร มาพร้อมใบกระท่อม ที่ประตู 7 เพราะผู้รับเหมาและคนงานก่อสร้าง หยุดงาน ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา และสถานการณ์ที่มีการ ปิดล้อมวัด ทั้งทหาร ตำรวจ ดีเอสไอ ใครจะถือใบกระท่อม เข้ามาให้เจ้าหน้าที่ตรวจ

...

3.กรณีเรื่องอาหาร ได้รับข้อมูลว่า ข้าวกล่องมื้อเที่ยงที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ ประตู 7 เวลา 10.00 น. วานนี้ จำนวน 300 กล่อง บูดเสียทั้งหมด ไม่สามารถนำมาฉันหรือรับประทานได้เลย ที่สำคัญพระและศิษย์ในวัดมีประมาณ 10,000 คน แต่ส่งมา 300 กล่อง ย่อมไม่เพียงพอ 4.การข่าวของรัฐบาลผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยขอตั้งข้อสังเกตว่า กุนซือเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ข้อมูลเท็จกับทางราชการ และเป็นบุคคลล้มละลายทางด้านความน่าเชื่อถือเพราะ โกหกว่า ใต้ถุนอาคาร เป็นอุโมงค์ลับ ซึ่งไม่เป็นความจริง กับโกหกว่า เครื่องนับดิจิตอล “สัมมาอะระหัง” เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสาร และโกหกว่า อาคารบุญรักษา ซึ่งกำลังก่อสร้าง เป็นที่หลบซ่อนตัวของหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าหน้าที่ ต้องเสียเวลา ยกกำลังพล เกือบ 50 นาย เข้าไปบุกตรวจ แต่ก็พบเพียงฝุ่น ที่กำลังก่อสร้างเท่านั้น อีกทั้งโกหกว่า อาคารภาวนา 60 ปี เป็นที่หลบซ่อนตัว แต่เจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจค้น ถึง 3-4 ครั้ง ก็พบเป็นอาคารที่ให้ญาติโยมมาปฏิบัติธรรม โกหกว่า อาคารดาวดึงส์ เป็นที่หลบซ่อนตัว แต่ก็ไม่พบตัว เจอเพียงเครื่องเพิ่มออกซิเจนกับเตียงเปล่า โกหกว่า อาคาร 100 ปี ซึ่งยังไม่มีการเปิดใช้งาน เป็นที่พำนักของหลวงพ่อธัมมชโย ทั้งที่อธิบดีดีเอสไอและรองสุริยา มาตรวจสอบด้วยตัวเอง

5.วัดพระธรรมกาย ขอยืนยันในการยึดหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาตลอด 47 ปี คือ การทำทาน รักษาศีล และการเจริญสมาธิภาวนามาโดยตลอด และหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา 6.หลักธรรมะในวันนี้ ท่านทั้งหลาย ปฏิวัติกี่ครั้งไม่จบ เลือกตั้งกี่ครั้งก็ไม่จบ ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของสังคม อุปมาเหมือนเลือกจ่าฝูงลิง แต่ลิงก็ฝูงเดิม ซึ่งพระพุทธองค์ ทรงให้มาตรฐานไว้ว่า “ธรรมที่แสดง และวินัยที่ทรงบัญญัติ จักเป็นศาสดาแทนพระองค์

ต่อมาเมื่อเวลา 10.40.น. ได้มีพ่อค้าแม่ค้า ภายในตลาดกลางคลองหลวง นำป้ายข้อความต่างๆ ยืนถือ เพื่อเรียกร้องให้ทางรัฐบาลยกเลิกมาตรา 44 เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการใช้กฎหมายดังกล่าว

ด้านผู้ประกอบการร้านค้ารายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ที่ขายของภายในเมืองแก้วมณีแห่งนี้ ทั้งขายอาหาร ขายผลไม้ ขายเครื่องดื่มและอื่นๆ ต่างได้รับผลกระทบจากการใช้ มาตรา 44 เพราะร้านค้าไม่สามารถค้าขายได้มาแล้ว 14 วัน ไม่มีรายได้เข้ามา แถมยังต้องเสียค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ รายเดือนอีก ใครจะรับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงอยากจะวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยกเลิกกฎหมายมาตรา 44 นี้ด้วย เพื่อพวกตนจะได้มีรายได้ไปเลี้ยงครอบครัว

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ บก.ตชด.ภ.1 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เผยว่า คณะทำงานจะประชุมร่วมกันเพื่อให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับ ที่จะแจ้งเตือนไปยังกลุ่มพระสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ ที่ปักหลักรวมตัว ทั้งบริเวณตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี และภายในวัดพระธรรมกาย เกี่ยวกับแนวทางการประกาศห้ามบุคคลผ่านหรือเข้าออกวัดพระธรรมกาย ในช่วงเวลา 15.00 น. วันนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาดีเอสไอ เคยออกประกาศแจ้งเตือนไปแล้วหลายครั้ง แต่ยังมีกลุ่มบุคคลฝ่าฝืนเข้าออกพื้นที่ควบคุมพิเศษตามคำสั่ง คสช.อยู่ ขอย้ำว่าผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนจะมีความผิด โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพถ่ายและบันทึกวิดีโอไว้แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินคดีย้อนหลัง

โฆษกดีเอสไอ เผยว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกบุคคลที่มีพฤติกรรม ขัดขวางและปลุกระดมในพื้นที่ประกาศมาตรา 44 ประกอบด้วย 1.นายอัยย์ เพชรทอง 2.นางกชกร ไชยวาน และ 3.นายพยุง อุณหิต โดยให้มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ที่ บก.ตชด.ภ.1 ในวันที่ 3 มี.ค.นี้

...

ส่วนกรณีมีข่าวว่า นายรุ่งโรจน์ เภกะนันทน์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาเคลื่อนไหวร่วมกับศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ในพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวงนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาอยู่ ให้ฝ่ายกฎหมายดีเอสไอรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว และยอมรับว่าขณะนี้มีความพยายามนำประเด็นการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ไปขยายผลเชื่อมโยงกับเรื่องการเมืองระดับประเทศ จึงย้ำอีกครั้งว่าเป็นคนละประเด็นกัน

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่นายกฯได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกายรวมทั้ง อธิบดีดีเอสไอด้วย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น การประชุมดังกล่าวนายกฯไม่ได้มีการกำชับหรือสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ให้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติของกฎหมาย ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเรียกประชุมเร่งด่วนนั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบในรายละเอียด.