ศาลจังหวัดเพชรบุรี ยกฟ้อง ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษ’ หัวหน้าชุดพญาเสือในคดีครอบครองกระสุนปืนและแมกกาซีน ระหว่างดำรงตำแหน่งหัวหน้า อช.แก่งกระจาน ฝากถึง ‘ลายทองเหรียญ’ ที่ขู่นำช้างบุกทำเนียบ ควรทำตามกระบวนการกฎหมาย... 

เวลา 09.30 วันที่ 28 ก.พ. 60 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ คดีหมายเลขดำที่ อ. 288/2559 มีอัยการจังหวัดเพชรบุรีเป็นโจทก์ ของกลางประกอบด้วยซองกระสุนปืนเอ็ม 16, เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 30 นัด กระสุนปืนขนาด 5.56 หรือกระสุนปืน HK จำนวน 80 นัด

โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายชัยวัฒน์ เป็นผู้ครอบครองกระสุนปืนและเครื่องกระสุนไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อพ.ศ. 2554 ขณะที่นายชัยวัฒน์ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในขณะนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นในพื้นที่ไร่ชัยราชพฤกษ์ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นของนายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร พี่ชายของนายชัยวัฒน์ พบกระสุนปืนขนาด .22 ในลิ้นชักภายในห้องนอน 1 ซึ่งห้องนอนนั้นไม่มีการล็อกประตู

จำเลยให้การต่อสู้คดี ความว่ามีบุคคลภายนอกสามารถเข้าออกได้ ประกอบกับจำเลยไม่ได้มานอนพักเป็นประจำ และไม่ได้เจอกระสุนปืนที่ตัวจำเลย สำหรับแมกกาซีนบรรจุกระสุนปืนขนาด 5.56 จำเลยอ้างว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาพบในขณะออกลาดตระเวนระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจำเลยมีอำนาจและมีดุลพินิจในการเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นการตรวจสอบในภายหลัง ในส่วนของกระสุนปืนขนาด 5.56 หรือ AK เป็นกระสุนปืนที่ใช้ในราชการกรมป่าไม้ ซึ่งจำเลยได้รับมาจาก กรมอุทยานแห่งชาติต้นสังกัด

...

จากคำให้การและพยานหลักฐาน ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยมีอำนาจในการครอบครอง จึงพิพากษายกฟ้อง

สำหรับในคดีนี้ทางนายมนูญ ทองทิพย์ ประธานชมรมแรงเจอร์พิทักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และศาสตราจารย์สิทธิโชค ศรีเจริญ ได้จัดหาทนายความ เป็นผู้ว่าความให้กับอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เนื่องจากเห็นว่า เป็นข้อกล่าวหา ที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ

หลังฟังคำพิพากษา นายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ ซึ่งตนได้ต่อสู้ต่อคำกล่าวหาในหลายๆ คดีด้วยแนวทางการพิสูจน์ตนเองในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด

"กรณีชาวช้างที่นายลายทองเหรียญ ออกมาข่มขู่ว่า หากมีการดำเนินคดีเรื่องตั๋วช้างปลอม จะยกขบวนชาวช้างมากรุงเทพฯ ก็อยากให้นายลายทองเหรียญเดินหน้าในแนวทางที่ถูกต้อง คือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะดีกว่า ซึ่งการออกมาข่มขู่ผ่านสื่อมวลชนแบบนี้ก็อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การนำช้างออกมา หรือเคลื่อนย้ายต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน หากไม่มีการดำเนินการใดๆ หรือปล่อยปละละเลยจะถือว่า เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"