ความภาคภูมิใจของนักสืบรุ่นเก่า
พล.ต.ต.อังกูร อาทรไผท มีความทรงจำประทับใจเช่นกัน
อดีตนายตำรวจมือปราบบอกว่า อาชีพตำรวจเหมือนปิด ทองหลังพระ ช่วยเหลือช่วยชีวิตคนไว้มากมาย บางรายต้องเอาชีวิตตัวเองเข้าเสี่ยง
ไม่ได้หวังตอบแทน แม้แต่คำขอบคุณ
คนที่ได้รับการช่วยเหลืออาจไม่ทราบ หรือทราบ แต่อาจลืม หรือไม่สนใจ เพราะตำรวจต้องทำตามหน้าที่ เหมือนสมัยเป็น สารวัตรสืบสวนใต้ เมื่อกว่า 40 ปีก่อน ร่วมช่วยเหลือ “เหยื่อค่าไถ่” เด็กชายวัย 3 ขวบ
วินาทีความเป็นความตายครั้งนั้น พล.ต.ต.อังกูรเผยเบื้องหลังประสบการณ์ทำงานไว้ในเว็บไซต์ www.angkul007.com ของตัวเองอย่างละเอียด พร้อมประกาศตามหาเด็กคนนั้นที่ปัจจุบันอายุน่าจะ 40 ปี
ปรากฏว่า เขาตอบข้อความมา ขอบคุณทีมตำรวจสืบสวนใต้ ที่ช่วยเหลือวิกฤติเรียกค่าไถ่คราวนั้น
“จริงๆเมื่อก่อน ผมมีหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับที่มีข่าวของผมเก็บไว้นะครับ แต่พอย้ายบ้านเลยหายไปไหนไม่รู้ ผมพยายามหา เท่าไรก็ไม่เจอ” อดีตเด็กน้อยเหยื่อค่าไถ่ระบายความตื่นเต้น
“หลังจากที่ผมรอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้ไม่นาน พ่อแม่ของผมก็เสียชีวิตไล่ๆกันครับ ห่างกัน 2 ปี พ่อผมเสียตอนผมอายุ 7 ขวบ หลังจากนั้นแม่ก็เสียตาม ผมอยู่กับพี่สาวมาโดยตลอด ตอนนี้ผมก็ยังอยู่บ้านละแวกบ้านเดิมครับ”
ปัจจุบันเขาเรียนจบทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท ทำงานเกี่ยวกับโฆษณา
เขาสารภาพตามตรงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แทบจำรายละเอียดไม่ได้ หากไม่ได้มาอ่านบทความของพล.ต.ต.อังกูร ทำให้ระลึกภาพความทรงจำเก่าทุกอย่างได้
“ผมอยากให้คุณน้าสบายใจว่า ผมโตขึ้นมาอย่างดี และมีความ เป็นอยู่ที่ดี และผมจะไม่ลืมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้ผมเข้มแข็ง ถ้ามีโอกาสผมอยากได้เจอคุณน้าสักทีเพื่อจะขอบคุณ และผมก็ฝากตัวเป็นลูกหลานของคุณน้าอีกสักคนนะครับ”
มันเป็นความรู้สึกตื้นตันของตำรวจผู้ปฏิบัติที่มีชีวิตเหยื่อครั้งนั้นเป็นเดิมพัน
อีกเบ้าหลอมสำคัญที่นักสืบรุ่นใหม่ต้องจารึกเก็บไว้.