"ทหาร-ตร.-วอชด๊อก" บุกตรวจสถานรับเลี้ยงสุนัข-แมวชื่อดัง "บ้านแสงตะวัน" ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังมีผู้ร้องเรียนพบสัตว์ตายถูกปล่อยทิ้งเน่าคากรงจำนวนมาก พร้อมมีเรื่องของเงินบริจาคที่ถูกนำไปใช่ไม่ตรงวัตถุประสงค์...

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 27 ก.พ.60 พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี นายสมพจน์ เปาปราโมทย์ ปศุสัตว์อำเภอนครชัยศรี นายชัยยุทธ หุ่นเจริญ ปลัดอำเภอนครชัยศรี พ.ท.พลสันต์ รุ่งนิรันดร์ ผบ.ม.พัน.19 สัตวแพทย์หญิงภัทนันท์ สัจจารมย์ สัตวแพทย์ประจำ watch dogs thailand พร้อมด้วยจิตอาสา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้เดินทางไปยังบ้านแสงตะวัน ตั้งอยู่เลขที่ 123/ 8 หมู่ 1 ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังได้รับการร้องเรียนจากนางนิศารัตน์ ศิริสุนทรสกุล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 หัวหมาก 24 แขวงและเขตบางกะปิ กทม. ว่าที่บ้านแสงตะวัน ซึ่งเปิดเป็นสถานที่พักพิงสัตว์หรือสถานสงเคราะห์สัตว์ ที่เปิดรับสุนัขจรจัด และแมวจรจัดมาเลี้ยงดู แต่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง สัตว์ป่วยตายและติดโรค ประกอบกับสถานที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ยังมีสุนัขที่ป่วยตายจนเป็นซาก แต่ไม่เคลื่อนย้ายออกจากโรงเรือนไปทิ้งอย่างถูกต้อง

...

จากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เดินทางไปยังบ้านแสงตะวัน เมื่อไปถึงพบว่าเป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ยกพื้นสูง 50 ซม. ชั้นเดียวปลูกเป็นทางยาวตรงกลางเป็นทางเดิน มีกรงสุนัขอยู่สองข้างทางเดินตลอดแนว อยู่ในเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ภายในส่งกลิ่นเหม็นจากซากสัตว์ตายและมูลของสุนัขและแมว คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เนื่องจากภายในโรงเรือนดังกล่าว มีสัตว์เลี้ยงสุนัข 300 ตัว แมวกว่า 400 ตัว ไก่ 30 ตัว หมูป่า 17 ตัว และยังมีห่าน และเต่าจำนวนหนึ่ง และตามกรงยังพบซากของสุนัขและแมวที่ตายแต่ทิ้งไว้จนเน่าให้เห็นหลายกรง นอกจากนี้ยังมีกองขยะที่มีซากสัตว์ตายถูกทิ้ง โดยไม่ทำลายจนเน่าส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ภายในโรงเรือนยังพบนายสัญญา รสรื่น อายุ 65 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นผู้ดูแล

นายสัญญา เผยว่า ที่บ้านแสงตะวันมีผู้รับผิดชอบดูแลเลี้ยงดูสุนัขจำนวน 5 คน ประกอบด้วยตนเอง และ นางวนิดา รสรื่น อายุ 75 ปี ภรรยา นางสาวพนาวรรณ ศรีทองพิมพ์ อายุ 33 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายสุรินทร์ สนทอง อายุ 62 ปี น้องชายของนางวนิดา และน.ส.อร รสรื่น อายุ 50 ปี น้องสาวของนายสัญญา ทั้งหมดเป็นเครือญาติที่ช่วยกันดูแลสัตว์เลี้ยง จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่ตรวจดูภายในโรงเรือน ซึ่งพบว่ามีสุนัขที่ปล่อยออกมาเดินอยู่ด้านนอกกรงบางส่วนขังกรงไว้ โดยสภาพของสุนัขแต่ละตัวไม่ได้อาบน้ำทำความสะอาด มีเห็บหมัด บางตัวป่วยเป็นโรคเรื้อนมีแผลพุพองตามตัวขนหลุดร่วง เมื่อเข้าไปด้านในยังพบแมวที่อาศัยอยู่ในกรง 1 กรง จะใส่แมวไว้ 2-3 ตัว แต่ละตัวมีสภาพที่ไม่แข็งแรง ขนร่วง เป็นโรค และยังพบว่ามีสุนัขแม่ลูกอ่อนที่เพิ่งตกลูกสุนัขนอนอยู่ แต่ปรากฏว่ามีลูกสุนัขนอนตายอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายออกนอนปะปนกันกับลูกสุนัขที่มีชีวิต นอกจากนี้ยังพบนกพิราบตายอยู่ในกรง ซากแมวตายจำนวน 5 ตัว เป็นซากแห้งตายอยู่ในกรง ส่งกลิ่นเหม็นเน่าและยังพบ ซากสุนัขนอนตายอยู่ในกองขยะอีกหลายตัว


สัตวแพทย์หญิงภัทรนันท์ เผยว่า ในวันนี้ได้เข้ามาตรวจยังบ้านแสงตะวัน ปรากฏว่าพบสัตว์ป่วยจำนวนมาก มีทั้งป่วยโรคทั่วไปและป่วยหนัก มีทั้งโรคระบาดทางระบบทางเดินหายใจ โรคระบาดที่เกิดจากเชื้อเนื้องอกที่อวัยวะเพศและไม่ได้ทำหมัน แต่ผสมพันธุ์กัน และยังไม่ได้รับการรักษา จะต้องทำการเคลื่อนย้ายออกเพื่อทำการรักษาและทำการตรวจสอบดูแนวทางในการจัดการของบ้านแสงตะวัน ว่าจะมีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดอย่างไร หากไม่สามารถตกลงพูดคุยกันได้จะต้องนำสัตว์ออกมาก่อนเพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือสัตว์ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโรคระบาดลงและทำให้สัตว์จำนวนหนึ่งเสียชีวิต สำหรับบ้านแสงตะวันมีสุนัขอีกจำนวนหลายตัวที่ไม่ได้รับการรักษาถ้าหากไม่นำไปรักษาก็จะทำให้เกิดโรคระบาดขึ้นทั้งหมด สำหรับวันนี้จะต้องเคลื่อนย้ายสุนัขป่วยหนักจำนวน 10 ตัว และแมวจำนวน 6 ตัว ออกไปรักษาก่อน สัตวแพทย์หญิงยังเผยต่ออีกว่า สำหรับสัตว์ที่ป่วยตายหรือที่ตายแล้วแต่ยังไม่ได้เก็บซากสัตว์ ซึ่งมีจำนวนหนึ่ง จะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอนครชัยศรีดูแลและขอความร่วมมือให้ความรู้กับบ้านแสงตะวันว่าจะมีการดำเนินการจัดการซากสัตว์ เหล่านี้ได้อย่างไรพร้อมให้คำแนะะนำในการควบคุมโรคด้วยเพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาด

...

ด้านนางนิศารัตน์ ศิริสุนทรสกุล อายุ 56 ปี ผู้ร้องเรียนเผยว่า ตนได้เดินทางมาบ้านแสงตะวันจำนวน 4 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 59 ครั้งที่ 2 เดือนเมษายน 59 ครั้งที่ 3 กลางปี 59 และครั้งที่ 4 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 60 ในแต่ละครั้งที่เดินทางมาก็จะถือโอกาสนำสุนัขจรจัดนำมาฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านแสงตะวัน รวมแล้วกว่า 20 ตัว พร้อมกับเสียค่าดูแลตัวละ 2,000 บาท ซึ่งทางบ้านแสงตะวัน ขอเป็นค่าอาหารและเลี้ยงดู ทุกครั้งยังมีอาหารติดมือมาด้วย สาเหตุที่นำสุนัขจรจัดมาให้เลี้ยงยอมเสียเงิน เพราะความสงสารจึงอยากหาที่อยู่ให้ โดยให้ลูกสาวดูข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตทราบว่าบ้านแสงตะวันเปิดรับเลี้ยงสุนัขจรจัดจึงนำมาให้เลี้ยง แต่เมื่อกลับมาเยี่ยมเยียนเหล่าบรรดาสุนัขจรจัดของตน ปรากฏว่า สุนัขมีลักษณะที่ไม่ร่าเริง และมีอาการป่วยทรุดโทรมลงเรื่อยๆ ตายไปหลายตัว และเมื่อเข้ามาดูเห็นสิ่งต่างๆ รู้สึกหดหู่ใจ จึงปรึกษาเพื่อนๆ ที่เป็นจิตอาสาอยู่ในกลุ่มของ watch dogs thailand ให้เข้ามาตรวจสอบ

นายสมพจน์ เปาปราโมทย์ ปศุสัตว์อำเภอนครชัยศรี เผยว่า ทางปศุสัตว์จะต้องเข้มงวดกับผู้ประกอบการเจ้าของบ้านแสงตะวัน ที่เปิดเป็นสถานที่รับเลี้ยงสุนัขแบบเอกเทศหรืออิสระ ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนจัดตั้งเป็นองค์กรหรือมูลนิธิที่ถูกต้อง ซึ่งบ้านแสงตะวันแห่งนี้ สามารถจัดตั้งได้หากมีความพร้อมสามารถยื่นจดทะเบียนได้ เมื่อจดทะเบียนแล้วก็จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือทั้งเรื่องโรควัคซีนในการป้องกันโรคและการรักษาพยาบาล

...

สำหรับบ้านแสงตะวันซึ่งไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรหรือมูลนิธิ หากตรวจพบว่ามีการรับผลประโยชน์จากสุนัขและแมวถือว่ามีความผิด และหากตรวจสอบแล้วพบว่าปล่อยให้สุนัขป่วยดิ้นทุรนทุรายจนตาย โดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่และไม่นำไปรักษาจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกัน สุขภาพสัตว์ 2557 เป็นการทารุณกรรมสัตว์ผิด พ.ร.บ. แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า บ้านแสงตะวันเข้าข่ายในเรื่องใด ในเบื้องต้นได้ทำการตักเตือนเกี่ยวกับการเอาใจใส่ดูแล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องมีความสามารถในการดูแลสัตว์ได้ ทางปศุสัตว์ก็สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ เช่น หากพบสุนัขป่วยให้แจ้งเข้ามาขอวัคซีนป้องกันโรคได้ แต่หากตรวจสอบพบว่าบ้านแสงตะวัน หากไม่ขึ้นทะเบียนแล้วยังไม่มีความสามารถในการดูแลสุนัขได้ และปล่อยให้เสียชีวิตจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การควบคุมสัตว์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูด้วยว่ามีหลักฐานแน่ชัดว่าป่วยโดยไม่ดูแลรักษา ปล่อยให้สัตว์ทรมานหรือตายโดยไม่แจ้งว่าเป็นโรคหรือไม่นำไปฝังทิ้งทำให้เกิดการแพร่เชื้อโรคอันนี้จะโดนหนัก

ขณะที่นายสัญญา รสรื่น เจ้าของบ้านแสงตะวัน กล่าวว่าที่บ้านแสงตะวันรับเลี้ยงสุนัขไว้มากกว่า 300 ตัว แมวกว่า 400 ตัว หมู ไก่ อีกจำนวนหนึ่ง มาตั้งแต่ปี 2523 สาเหตุที่มาเลี้ยงเพราะ นางวนิดา ภรรยา เคยเห็นสัตว์ถูกรังแก แล้วเกิดความสงสารเข้าช่วยเหลือ ด้วยความรักสัตว์ จึงอุ้มกลับบ้านไปรักษาตัว นำมาเลี้ยงต่อด้วยความสงสาร จนปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 30 ปีแล้ว มีลูกจ้างรวมตนเป็น 5 คน ปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู วันละ 5000 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะซื้ออาหารเพราะต้องจ่ายในส่วนของผู้ดูแลด้วย ประกอบกับตนเป็นหนี้นอกระบบ ต้องกู้หนี้ยืมสิน แต่รายได้มาจากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธายื่นมือมาช่วย จนกระทั่งส่งผลกระทบทั้งด้านดีและไม่ดี ในช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา เกิดอากาศเปลี่ยนแปลงหนาวจัด ทำให้สุนัขและแมวที่ป่วยไม่สามารถต้านทานได้ล้มตายไปกว่า 50 ตัว บางตัวส่งไปรักษาก็ตาย เมื่อสุนัขตายบางครั้งก็แจ้งปศุสัตว์บางครั้งก็ไม่แจ้ง ก็จะนำไปฝังไว้นอกโรงเรือนแต่เป็นพื้นที่ของตน

...

พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี เผยว่าในส่วนของตำรวจ คงต้องรอทางด้านปศุสัตว์ ตรวจสอบข้อกฎหมายให้ถูกต้องก่อนว่ามีความผิดอะไรบ้างตาม พ.ร.บ.สัตว์เลี้ยงหรือการทารุนสัตว์ และจะต้องรอการตรวจสอบเรื่องการใช้เงินที่ได้รับจากการบริจาคจากประชาชนด้วยว่านำไปใช้ตามจุดประสงค์ที่บริจาคหรือไม่ ต้องรอผู้ที่ถือสมุดบัญชีมาชี้แจง และเรื่องใบอนุญาตต่างๆ ขณะนี้รอการตรวจสอบจากปศุสัตว์ซึ่งเป็นเจ้าทุกข์โดยตรงมาแจ้งความ.