ตร.ภาค 4 ยึดยาไอซ์น้ำหนักเกือบ 86 กก.มูลค่ากว่า 90 ล้านบาทที่ซุกไว้ในสวนยางพาราและป่ากล้วย ที่บึงกาฬ เร่งสืบหาเชื่อมโยงกับแก๊งค้ายาไซซะนะ หรือไม่ พบ แก๊งข้ามชาติเปลี่ยนแผนขนเข้าไทยทางอีสาน

เมื่อวันที่ 23 ก.พ.60 พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4, นายพิสุทธิ์ ภู่เงิน ผอ.ปปส.ภ.4 และ พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดยาไอซ์ น้ำหนักรวม 85.98 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 86,000,000 บาท

พล.ต.ท.จตุพล กล่าวว่า ยาไอซ์ทั้งหมด ถูกบรรจุอยู่ในหีบห่อมาเป็นอย่างดี ซึ่งกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติพยายามที่จะหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายที่สุด โดยยาไอซ์เกือบ 86 กิโลกรัม บรรจุมาในรูปแบบของชาจีน ซึ่งห่อหุ้มด้วยบรรจุภัณฑ์สีทอง เพื่อหวังหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ตรวจสอบพบว่า ยาไอซ์ที่ยึดได้ล่าสุดนี้เป็นกลุ่มขบวนการเดียวกันที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ทำให้แน่ใจว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีการเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงยาไอซ์จากเดิม จากเมียนมาเข้าไทยผ่านทางภาคเหนือวันนี้มีการปรับแผนจากเมียนมา ผ่าน สปป.ลาว และเข้าไทย ผ่านภาคอีสาน โดยยังคงใช้พื้นที่จังหวัดตามลำน้ำโขงเช่นเดิม

“กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติเริ่มลองของกับตำรวจอีสาน ในการส่งยาไอซ์เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจมีผลการจับกุมกัญชาและยาบ้า อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในจุดนี้กลุ่มผู้ต้องหาอาจจะมองว่าเราถนัดในเรื่องการตรวจจับเฉพาะกลุ่ม จึงลองส่งยาไอซ์เข้ามาในพื้นที่เพื่อเปิดเส้นทางลำเลียงใหม่ แต่ก็ไม่สามารถที่จะตบตาตำรวจได้ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบนเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบอย่างละเอียด รอบคอบมากขึ้น หลังตลอดทั้งสัปดาห์นี้มีการลักลอบนำเข้ายาไอซ์มาในประเทศไทยจำนวนมาก จากผลการจับกุมของกำลังเจ้าหน้าที่ในทั่วทุกภูมิภาคของไทย”

...

พล.ต.ท.จตุพล กล่าวต่ออีกว่า ยาไอซ์ลอตนี้จะเชื่อมโยงกับเครือข่ายของ ไซซะนะ หรือไม่ เจ้าหน้าที่ของเรากำลังเร่งสืบสวนสอบสวนหาข้อมูล โดยยังคงไม่ปักใจเชื่อไม่ว่าจะมีข้อมูลมาในรูปแบบใด ขณะเดียวกันได้ประสานร่วม ป.ป.ส. และ ปปง. ทำการยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานให้หมด เพราะตนเองนั้นยอมไม่ได้ที่จะให้ผู้ค้ายาเสพติดทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่เข้ามาใช้พื้นที่ภาคอีสานตอนบนในความรับผิดชอบนั้นทำมาหากินในสิ่งที่ผิดกฎหมายของไทย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ประจำในพื้นที่เสี่ยง ตลอดแนวลำน้ำโขง ในเขต จ.บึงกาฬ เบื้องต้น 5 จุด ประกอบด้วยที่ ต.หอคำ, ต.เหล่าหลวง และเขต อ.เมือง จ.บึงกาฬ รวมทั้งพื้นที่ อ.ปากคาด และ อ.บุ่งคล้า เพื่อสกัดจับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ลักลอบนำเข้าประเทศไทยในจุดดังกล่าวอย่างเข้มงวดเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย