เช้านี้ภาคอีสาน-กลาง-ตะวันออก ค่อนข้างร้อนอบอ้าว และร้อนมากช่วงกลางวัน ก่อนอากาศจะแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ตั้งแต่ 23-26 ก.พ. รวมถึงกทม.-ปริมณฑล จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาฯ...

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. จากการตรวจสอบสภาพอากาศทั่วไทย โดยไทยรัฐ ทีวี ร่วมกับเดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่า เช้านี้เริ่มมีกลุ่มเมฆก่อตัวขึ้นเข้าปกคลุมในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก จากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางได้แผ่กลับลงมาปกคลุมในบริเวณประเทศจีนตอนใต้ และเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าภายในวันนี้จะแผ่ลงมาปกคลุมถึงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และทะเลจีนใต้

อย่างไรก็ตามเช้านี้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวเนื่องจากมีความชื้นสูง ได้ปกคลุมขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นในบริเวณดังกล่าว ส่วนช่วงกลางวันอากาศจะร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีบางพื้นที่อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุดวันนี้คาดว่าจะไปอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส ซึ่งเมื่ออากาศร้อนและการแผ่ลงมาของมวลอากาศเย็นเข้ามาปะทะ จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศแปรปรวน โดยเป็นฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น

สำหรับผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้ ในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ. บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยจากการคาดการณ์ลักษณะการตกของฝนในวันนี้ จะพบว่ากลุ่มฝนจะเริ่มมีการกระจายตัวมากขึ้นในช่วงเที่ยงเป็นต้นไป ทั้งในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก หลังจากนั้นช่วงบ่ายถึงช่วงเย็นมีโอกาสเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคกลางตอนล่าง ซึ่งหลังจากฝนตกแล้ว อุณหภูมิจะลดลงประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส

...

ส่วนอุณหภูมิในเช้าวันพรุ่งนี้(24 ก.พ.) พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็น โดยอุณหภูมิสูงสุดไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก มีอุณหภูมิมากกว่า 25 องศาเซลเซียส และจากอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพไว้ด้วย

ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงตั้งแต่วันที่ 24 -27 ก.พ.นี้

ภาพรวมสภาพอากาศแต่ละภูมิภาค

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงส่วนมากบริเวณจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส