จัดงานเผาศพเซลส์แมน ณ วัดช่องลม อ.บางปลาม้า ท่ามกลางความสงสัยขุ่นเคืองของคนในครอบครัวและเพื่อนๆ ขณะที่พ่อผู้ตายเผยยังติดใจการตาย แต่ไม่อยากเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรมกำหนด

จากกรณีนายรัติภูมิ หรือเบิร์ด พิมใจใส อายุ 34 ปี เซลส์แมนขายรถยนต์ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ขาดการติดต่อตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.59 กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ม.ค.60 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยสืบจนพบนายรัติภูมิ เสียชีวิต กลายเป็นศพที่ รพ.ศิริราช ซึ่งแพทย์ได้ผ่าศพชันสูตร ระบุผู้ตายมีสารเสพติด (ยาบ้า) ในร่างกายเกินขนาด และระบุสาเหตุการตายว่า ตับและไตทำงานล้มเหลวสงสัยจากพิษยาบ้า ท่ามกลางความกังขาของครอบครัว เนื่องจากตามลำตัวมีร่องรอยบาดแผลหลายแห่ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 ก.พ.ที่วัดช่องลม หมู่ 4 ต.ไผ่กองดิน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ได้ประกอบพิธีฌาปนกิจนายรัติภูมิ มี พล.ต.ต.ธีรพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.7 เป็นประธานในพิธี บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก พร้อมด้วยครอบครัวผู้ตายและญาติพี่น้องร่วม 300 คน เข้าร่วมงาน ขณะเดียวกันหลายคนยังคงจับกลุ่มวิจารณ์ถึงเงื่อนงำในสาเหตุการเสียชีวิต

นายละเอียด บิดาของผู้ตาย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ปรึกษากันในครอบครัวแล้ว ทุกคนมีความเห็นว่าให้เผาศพลูกชาย เพราะต่อสู้ไปก็คงจะไม่ได้อะไร อยากให้ลูกชายไปสู่สุคติมากกว่า ส่วนข้อสงสัยในที่มาที่ไปของสาเหตุการตาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังมีการดำเนินการต่อ ตนเองได้ตระเวนดูเป็นสิบวัน ทั้งที่ สน.ธรรมศาลา และที่ รพ.ศิริราช แต่ไม่พบ อยู่ดีๆ ศพก็มาอยู่ที่ รพ.ศิริราช ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ตนไปหาจนทั่ว แต่รับแจ้งว่าไม่พบศพ รวมถึงเหตุทีแรกเกิดที่ สน.ธรรมศาลา แต่อยู่ดีๆ ลูกชายตนไปโผล่ที่ สน.ตลิ่งชัน

...

"ศพลูกชายไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร หรือมีใครพาเขาไป อย่างไรก็ตามครอบครัว คงต้องติดตามและตรวจสอบ ณ ตอนนี้ก็คงต้องตั้งหน้าทำมาหากินเลี้ยงชีวิตต่อไป เป็นครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ไม่มีอำนาจที่จะไปสู้รบตบมือกับใคร ซึ่งหากลูกชายถูกฆ่าตายจริง ก็คงจะสาวไปไม่ถึงคนลงมืออย่างแน่นอน ให้เป็นเรื่องของเวรกรรม เราเป็นเพียงไม้ซีก คงไปงัดไม้ซุงไม่ได้" นายละเอียด กล่าว

** ข่าวที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่ **