เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการสิทธิชุมชน และฐานทรัพยากรกล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.พ. นี้ ทางอนุกรรมการสิทธิชุมชนฯ จะตรวจสอบคำร้องจากที่มีประชาชนได้ยื่นคำร้องการละเมิดสิทธิชุมชนจากโครงการศึกษาสำรวจออกแบบการปรับปรุงร่องน้ำแม่น้ำโขง ที่จะระเบิดแก่งเพื่อเปิดทางเดินเรือ ตามโครงการเดินเรือเสรี 4 ประเทศ จีน เมียนมา ลาว ไทย เฟส 2 จากสามเหลี่ยมทองคำ ถึงหลวงพระบาง จากที่ระเบิดเฟสแรกไปแล้วเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา และมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตคนลุ่มน้ำไปแล้ว การเดินหน้าสำรวจเฟส 2 อีก จึงได้ขอให้ กสม. ตรวจสอบรายละเอียดโครงการ และเปิดเผยข้อมูล
โดยทางอนุกรรมการฯ จะเชิญกรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะสมาชิกคณะกรรมการแม่น้ำโขง กระทรวงต่างประเทศ ในมิติต่างประเทศ แม่น้ำนานาชาติ และเรื่องพรมแดนของประเทศ กรมเจ้าท่า การก่อสร้างล่วงลำน้ำ เชิญ ผวจ.เชียงราย หรือตัวแทนรวมถึงผู้เชี่ยวชาญอดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้แก่ ปธ.กมธ.การมีส่วนร่วม การต่างประเทศ และสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญแม่น้ำนานาชาติ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงให้ข้อมูลที่สำนักงาน กสม.
นอกจากเรื่องการกระทบต่อวิถีชุมชนท้องถิ่นคนลุ่มน้ำ และยังกระทบถึงความมั่นคงของประเทศ และความมั่งคงในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนในพื้นที่ เพราะหากมีเรือเดินเรือขนาดใหญ่เข้ามาจะมีการตรวจค้น การมีด่านตรวจเรือหรือไม่ มีมาตรการจะป้องกันผลกระทบความมั่นคงของประเทศ เขตชายแดนอย่างไร เกาะแก่ง เสมือนเขื่อนธรรมชาติ ร่องน้ำที่ชัดเจน จะมีผลกระทบความมั่นคงของรัฐอย่างไรบ้าง จึงจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลด้วย
“สำหรับการชุมนุมของประชาชนในพื้นที่สามารถทำได้ตามมาตรา 41 ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และมาตรา 43 (2) สิทธิในการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม มิติทางนิเวศวัฒนธรรม การใช้ทรัพยากรที่หล่อเลี้ยงชุมชนอยู่ หน่วยงานรัฐต้องพิจารณาข้อเสนอนั้น โดยให้ประชาชนมีสิทธิ ไม่ได้ออกมาเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล ดังนั้นการเข้าชื่อแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนที่ไม่อันตรายต่อความสงบสุข ความมั่นคง ประชาชนสามารถทำได้ และตามมาตรา 58 การดำเนินการใดของรัฐถ้ากระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือส่วนได้ส่วนเสียสำคัญอื่นของประชาชนก็ต้องประเมินผลกระทบก่อนด้วย” นางเตือนใจกล่าว.
...