มีจดหมายเขียนมากจาก ครูอาชีวะรับจ้าง ที่ไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครู ส่วนใหญ่ทำงานในตำแหน่งครูอัตราจ้างมากกว่า 10 ปี ตามสถาบันการศึกษาที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยการอาชีพ วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยสารพัดช่าง
สถาบันเหล่านี้ได้สร้างคนให้มีความรู้ ความสามารถด้านช่างสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นฝีมือแรงงานที่สำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ทุกรัฐบาลเห็นความสำคัญของบุคลากรด้านฝีมือการช่างระดับปฏิบัติ
จึงมีนโยบายให้นักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นแล้วเข้าเรียนในระดับสายสามัญและสายอาชีพในอัตราส่วน 30 ต่อ 70
แต่ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังตั้งไว้
น่าจะเนื่องมาจากค่านิยมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษที่ต้องการให้ลูกหลานได้เป็นเจ้าคนนายคน
มีความเชื่อว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยเท่านั้นที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้
คนที่เขียนบอกว่าอยากบอกความจริงข้อหนึ่งให้ทราบว่า บุตรหลานที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ถ้าไม่เลือกงาน และไม่ขี้เกียจจนเกินไป รับรองมีงานทำ
เพราะสร้างคนให้มีคุณภาพ
งานที่ได้ล้วนแต่มีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวให้มีอยู่มีกินอย่างไม่เดือดร้อน
ผิดกับบุตรหลานที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยต่างๆ มักจะมีสัดส่วนในการตกงานมากกว่า
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงสำหรับประเทศไทย ผู้สำเร็จการศึกษาสายอาชีพจากสถาบันสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง
รัฐบาลให้การสนับสนุนให้เด็กเข้าเรียนสายอาชีพให้มาก แต่บุคลากรในสถาบันเหล่านี้ส่วนมากจะเป็นครูอัตราจ้าง ทุกสถาบันจะมีครูอัตราจ้างมากกว่าข้าราชการครู ครูอัตราจ้างแต่ละคนมองไม่เห็นความมั่นคงและความก้าวหน้าในอาชีพเลย บางคนทำงานในตำแหน่งครูอัตราจ้างมามากกว่า 10 ปี ก็ไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครู ทำให้ขาดขวัญและกำลังใจ
ครูอาชีวศึกษาอัตราจ้างขอร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นใจและให้ความช่วยเหลือบรรจุให้ได้เป็นข้าราชการครู
อาจจะมีเกณฑ์ว่าเป็นครูอัตราจ้างมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
อย่าบอกว่า มีการเปิดสอบบรรจุทุกปีแล้ว
เพราะเปิดบรรจุทั้งประเทศปีละสิบกว่าอัตราเท่านั้น.