ร.ต.อ.บำนาญวัย 77 ปีใช้ปืน .38 จ่อขมับยิงตัวเองเสียชีวิตคาบ้านพักใน จ.น่าน ภรรยาผู้ตายคาดว่ามีความเครียดเรื่องปัญหาสุขภาพ เพราะก่อนตายมีการเรียกไปบอกเรื่องทรัพย์สินมรดกเหมือนสั่งเสีย ทั้งนี้ ญาติไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด...
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 3 มกราคม 2560 พ.ต.ท.ภัทราวุฒิ แจ้งอำพันธ์ พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุคนใช้อาวุธปืนทำร้ายตัวเองอาการสาหัส ที่บ้านค่าไหมไชยเจริญ หมู่ที่ 11 ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ประยูร ชำนาญคง ผกก.สภ.เมืองน่าน, พ.ต.ท.มานพ ค้าขาย สวป.สภ.เมืองน่าน พร้อม จนท.ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน
เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นลานด้านหน้าบ้านพบ กู้ชีพ กู้ภัย อบต.ไชยสถาน จนท.รพ.น่าน จำนวนหนึ่งกำลังเร่งให้การช่วยเหลือ ร.ต.อ.อัครินทร์ อดิเทพนรางกูร อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/2 บ้านค่าไหมไชยเจริญ หมู่ที่ 11 ตำบลไชยสถาน ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่นั่งบนรถเข็นได้ใช้ อาวุธปืนพกสั้นสมิธแอนด์เวลสัน ขนาด.38 ยิงเข้าบริเวณขมับข้างซ้ายทะลุออกขมับข้างขวา และอาวุธปืนตกอยู่บนตักผู้ตาย
เบื้องต้นได้สอบถามนางดานีย์ อดิเทพนรางกุล อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตาย ได้กล่าวว่า ผู้ตายเป็นอาจารย์พิเศษสอนภาษาต่างประเทศ ตั้งฟาร์มเลี้ยงสุนัขขาย และมีโรคประจำตัว เดินไม่ได้ไปไหนมาไหนจะต้องบนรถเข็น สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุทางจราจร ขณะที่รับราชการอยู่ที่ กทม. และต่อมาได้ย้ายมาอยู่จังหวัดน่าน เมื่อ 2 วันก่อนทางญาติและครอบครัวลูกชายได้เดินทางมาเที่ยวหาในพื้นที่ จังหวัดน่าน ซึ่งในช่วงนั้นได้เกิดฝนตกทำให้อุณหภูมิลดลง อากาศได้เย็นลงแล้วผู้ตายก็ได้บนว่าปวดกระดูกและทรมาน จากนั้นก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.20 น. ผู้ตายก็ได้เรียกตนไปพบพร้อมแม่บ้านที่ดูแลแล้วได้พูดเหมือนสั่งเสียก่อนตายในเรื่อง ทรัพย์สินมรดก และก็ได้บอกว่าหากผู้ตาย ได้ตายให้เอาศพไปไว้ที่วัดบ้านนาท่อ หมู่ที่ 1 ต.ไชยสถาน จากนั้นภรรยา ผู้ตายก็ได้เดินเข้าไปข้างในบ้านเกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงปืน จึงวิ่งออกมาดูพบว่า ร.ต.อ.อัครินทร์ ได้ใช้อาวุธปืนทำร้ายตนเอง จึงได้แจ้งทาง 1669 และ 191
ด้าน พ.ต.ท.ภัทราวุฒิ แจ้งอำพันธ์ พงส.สภ.เมืองน่าน กล่าวว่า เบื้องต้นนั้นได้บันทึกที่เกิดเหตุพร้อมเก็บอาวุธปืนดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานแล้ว และได้แจ้ง จนท.ตร.พิสูจน์หลักฐานเข้ามาทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง และจากการสอบถามภรรยาผู้ตายและญาติได้สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าผู้ตายน่าจะเครียดในเรื่องของปัญหาสุขภาพ และในเบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด และจะรับศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป.
...