สาวไทยติดคุกที่โอมานนาน 2 เดือน หลังนำยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมยาเสพติดใช้รักษาโรคประจำตัวเดินทางไปด้วย แอบส่งเฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ ด้านแม่ร้อง พมจ.พิษณุโลก หาทางช่วยลูกเร่งด่วน ห่วงลูกไม่ได้กินยาจนเกิดอาการชัก เกรงเป็นอันตรายถึงชีวิต
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.59 นางสุนทรี เนียมกลาง อายุ 53 ปี ชาวอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าพบ นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพิษณุโลก นายสมชาย พรหมมณี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก พันตำรวจโท สัญญา หาญวณิชชานนท์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอให้ช่วยเหลือ นางสาวรสสุคนธ์ เนียมกลาง อายุ 32 ปี หรือน้องจ๋า บุตรสาวที่ถูกตำรวจประเทศโอมานควบคุมตัวไว้ในข้อหานำยาต้องห้ามเข้าประเทศ ขณะเดินทางเข้าประเทศเพื่อไปเที่ยวหาเพื่อน เมื่อวันที่ 23 ต.ค.59 โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว และผ่านเจ้าหน้าที่ ตม.เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ขณะไปรับกระเป๋าพบว่ามีปัญหา เพราะกระเป๋าไม่ผ่านเครื่องสแกน ตำรวจตรวจกระเป๋าพบยารักษาโรคประจำตัวจำนวนมาก ซึ่งเป็นยาที่จ่ายออกจากโรงพยาบาลพุทธชินราช แต่มียาต้องห้ามเข้าประเทศ 1 อย่าง (ทรามาดอล) ซึ่งเป็นยาแก้ปวด แต่มีส่วนผสมของสารเสพติด ที่น้องจ๋าต้องรับประทานตลอดเวลาเพื่อบรรเทาอาการป่วย
นางสุนทรี เปิดเผยว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลบุตรสาว เพราะขาดยารักษาโรคประจำตัวจะทำให้เป็นไฮเปอร์ เท่าที่ทราบบุตรสาวมีอาการไฮเปอร์มาแล้ว 1 ครั้ง หลังถูกควบคุมตัวมาได้ 2 เดือนกว่าแล้ว เท่าที่ทราบติดปัญหาขั้นตอนในเรื่องประวัติการรักษา และใบรับรองเกี่ยวกับยาทามาดอล จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ประสานการช่วยเหลือให้ด้วย และเมื่อวาน (27 ธ.ค.) ตนเพิ่งทราบว่าบุตรสาวพยายามขอความช่วยเหลือโดยโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ระบุขอความช่วยเหลือดังนี้
...
ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 24 ธ.ค.59 ข้อความในจดหมายแจ้งว่า ผู้เขียนคือ นางสาวรสสุคนธ์ เนียมกลาง ที่ได้เดินทางไปประเทศโอมาน เพื่อมาหาเพื่อน ขึ้นเครื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา กระเป๋าเดินทางมียารักษาโรค สนามบินสุวรรณภูมิตรวจสอบสามารถนำยาออกนอกประเทศได้ เพราะเป็นยารักษาโรคประจำตัว และจ่ายยาโดยโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก เมื่อลงเครื่องปรากฏว่ากระเป๋าเดินทางไม่ผ่านการตรวจสอบ เพราะพบยาบางตัวเป็นยาต้องห้ามของประเทศโอมาน จึงถูกเจ้าหน้าที่ของโอมานจับกุม และถูกคุมขังตั้งแต่ลงเครื่องเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว
สำหรับยาที่สแกนไม่ผ่าน คือยากันชัก ยาแก้ปวดไมเกรน ยาแก้คลื่นไส้ ยาคลายเครียด ยานอนหลับ ยาปรับความดันเลือด ก่อนเดินทางไปตรวจรักษาแพทย์ โรคไมเกรน โรคซึมเศร้า ไฮเปอร์เวเนเตอเรชั่น และสั่งจ่ายยามาให้กิน 4 เดือน นำติดตัวไปเพียงครึ่งเดียว ที่เหลือไว้ที่บ้าน
นางสุนทรี กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้พยายามหาทางช่วยเหลือ ส่งเอกสารการรักษาจากโรงพยาบาลส่งให้ทางสถานทูตไทยที่ประเทศโอมาน แต่ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ระหว่างถูกควบคุมตัวตลอด 2 เดือน ที่สำคัญไม่ได้กินยาเพื่อรักษาโรคประจำตัวเลย ทำให้อาการเจ็บป่วยเริ่มกำเริบ อีกทั้งยังไม่สามารถสื่อสารได้ เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ทำให้ได้รับความลำบากเดือดร้อนมาก จึงต้องการขอความช่วยเหลือด่วน โดยนำหนังสือที่บุตรสาวโพสต์และตัวยาที่บุตรสาวนำไปไม่หมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย
ด้าน นายธานินทร์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ายา 1 ชนิดเป็นยาต้องสงสัย (ทรามาดอล) เพราะเป็นยาเฉพาะที่แพทย์ต้องสั่งจ่าย เพราะมีส่วนผสมของยาเสพติด อาจเป็นสาเหตุของการถูกควบคุมตัวไว้ อย่างไรก็ตาม ทาง พมจ.พิษณุโลก จะได้ประสานไปยังแพทย์ที่ทำการรักษาเพื่อรับรองประวัติการรักษาอาการป่วย พร้อมเอกสารรับรองการจ่ายยาแต่ละชนิด หลังจากมีการประสานไปยังสถานทูตไทยในประเทศโอมาน ให้เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือ เพื่อขอให้มีการได้รับยาในการรักษาโรคโดยเร็ว ก่อนอาการป่วยกำเริบจนเป็นอันตราย จากนั้นจะเร่งส่งเอกสารเพื่อทำการช่วยเหลือให้เร็วที่สุด.